รวม 10 วิธี ดูแลผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ

วัยสูงอายุเรียกได้เป็นวัยที่มีความอ่อนไหวสูงทั้งทางร่างกายและจิตใจ การดูแลจึงต้องใช้ความใส่ใจเป็นพิเศษรวม 10 วิธีเอาใจผู้สูงอายุมาบอกต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทางด้านร่างกาย หรือเสริมภูมิคุ้มกันของจิตใจให้ท่านได้มีความสุขในวัยเกษียณมากที่สุด

1: การสร้างสภาพแวดล้อม การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งแต่พื้นที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้ไปจนถึงชุมชนที่ให้การสนับสนุน การดูแลให้ผู้สูงอายุรู้สึกสบายใจและปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงอายุ

2: การจัดลำดับความสำคัญของความต้องการทางโภชนาการ การรับประทานอาหารที่สมดุลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาสุขภาพและความมีชีวิตชีวาในวัยชรา สำรวจแผนการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ปรับให้เหมาะกับผู้สูงอายุ

3: การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การออกกำลังกายเป็นประจำไม่เพียงแต่ทำให้สุขภาพกายดีขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มการทำงานของการรับรู้และความเป็นอยู่ทางอารมณ์อีกด้วย ค้นพบกิจกรรมที่สนุกสนานและเข้าถึงได้ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสกระตือรือร้นและมีส่วนร่วม

4: การส่งเสริมการกระตุ้นทางจิต สุขภาพจิตมีความสำคัญพอๆ กับสุขภาพกาย สำรวจกิจกรรมและแหล่งข้อมูลที่กระตุ้นการทำงานของการรับรู้ ป้องกันความเสื่อมถอยทางสติปัญญา และส่งเสริมความยืดหยุ่นทางอารมณ์ในผู้สูงอายุ

5: การดูแลทางการแพทย์และการติดตาม ผล การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและการติดตามสภาวะสุขภาพเชิงรุกถือเป็นสิ่งสำคัญ เรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การจัดการการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิผล และวิธีการนำทางระบบการดูแลสุขภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

6: การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางสังคม ส่งเสริมการทำกิจกรรม ได้พูดคุยกับผู้อื่น ไม่ให้ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว นานจนเกินไป สร้างสภาพแวดล้อมด้านสังคมที่ดี

7: การให้ความสำคัญดูแลด้านทางอารมณ์ การเปลี่ยนเข้าสู่วัยชราอาจเป็นเรื่องท้าทายทางอารมณ์ พออายุมากยิ่งขึ้นผู้สูงอายุบางคนก็จะมีความวิตกกังวลสูง ไม่ว่าจะเป็นการกลัวถูกทอดทิ้ง การกลัวเป็นภาระ ความรู้สึกเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความรู้สึกในด้านลบทั้งสิ้น วิธีดูแลผู้สูงอายุด้านจิตใจอาจจะต้องใช้ความสม่ำเสมอ และความเข้าใจให้มาก หลายความวิตกกังวลอาจจะมา ๆ หาย ๆ เราต้องทำใจไว้ว่าไม่สามารถที่จะกำจัดความรู้สึกเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถทำให้ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นน้อยที่สุดได้ การหากิจกรรม การพูดคุย จะเป็นการเติมเต็มให้ผู้สูงวัยมีความสุขมากยิ่งขึ้น

8: การจัดการกับข้อกังวลด้านความปลอดภัย ระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอันดับ 1 เลย ด้วยร่างกายของผู้สูงอายุ มีการเสื่อมถอยลงไปมาก หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลื่นล้ม ตกบันได ตกเก้าอี้ หรืออุบัติเหตุด้านอื่น ๆ เมื่อมีการบาดเจ็บการฟื้นตัวจะล่าช้าและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมาก บางอาการไม่สามารถทำให้ร่างกายกลับมาเป็นอย่างเดิมได้ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนั้น ย่อมดีกว่าแนวทางในการรักษา สถานที่อยู่อาศัยควรมีความเหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการสะดุดล้ม ดูแลความเรียบร้อยของสิ่งของต่าง ๆ ในบ้านจัดให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุภายในบ้าน

9: การให้การดูแลแบบประคับประคองและการดูแลระยะสุดท้าย เมื่อผู้อาวุโสมีอายุมากขึ้น การให้การดูแลระยะสุดท้ายด้วยความเห็นอกเห็นใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำรวจทางเลือกสำหรับการดูแลแบบประคับประคอง การวางแผนการดูแลขั้นสูง และการรับรองศักดิ์ศรีและความสะดวกสบายในช่วงสุดท้ายของชีวิต

10: ดูแลเรื่องการใช้ยารักษาโรค หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ยาของผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว จัดสรรให้กินตรงตามเวลา ไม่ละเลยการรับประทานยาหรือทำการหยุดยาด้วยตัวเอง โรคบางโรคของผู้สูงอายุต้องรับประทานยาต่อเนื่อง หากมีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาต้องนำยาที่กินเป็นประจำติดไปทุกครั้งเมื่อไปพบแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพราะยาบางตัวไม่สามารถกินร่วมกันได้ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง หากมีอาการป่วยต้องรีบพาไปพบแพทย์ก่อนที่จะสายเกินไป

กายภาพบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

กายภาพบำบัดเป็นวิธีการที่สำคัญในการช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ มันมีประโยชน์มากมายที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้รับการบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กายภาพบำบัดคืออะไร?

กายภาพบำบัดคือกระบวนการที่ใช้การฝึกซ้อมทางกายและการให้คำแนะนำเพื่อช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงสุขภาพทางกายของบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว โดยมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูฟังก์ชันการเคลื่อนไหวที่เสียหาย เพิ่มความแข็งแรง และลดอาการเจ็บปวด การกายภาพบำบัดสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การฝึกซ้อมกล้ามเนื้อ การใช้เครื่องมือช่วยเหลือ เช่น ไม้ยืน เครื่องมืออื่น ๆ รวมถึงการฝึกซ้อมฟิตเนสและออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีขึ้น การกายภาพบำบัดมักนำมาใช้ในการรักษาและฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บหลายประการ เช่น การบาดเจ็บทางกาย อุบัติเหตุ หรือภาวะพัฒนาการที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว การบำบัดนี้มีผลต่อการเรียนรู้การใช้งานและเคลื่อนไหวของร่างกายในทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือในการฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บหรือโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายและการเคลื่อนไหว

ประโยชน์ของกายภาพบำบัด

การกายภาพบำบัดมีผลดีต่อร่างกายและจิตใจของผู้ที่รับการบำบัด โดยมีประโยชน์หลายประการ เช่น ช่วยลดความเจ็บปวด ปรับฟื้นฟูสมรรถภาพทางกาย บรรเทาอาการบาดเจ็บ เพิ่มความมั่นคงให้กับร่างกาย และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการเคลื่อนไหว

วิธีการกายภาพบำบัด

กายภาพบำบัดประกอบด้วยการฝึกซ้อมท่าทางการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม การใช้เครื่องมือช่วยเหลือ เช่น ไม้ยืนเดี่ยว ไม้ยืนพันธุ์และเครื่องมือการฝึกซ้อมอื่นๆ รวมทั้งการฝึกซ้อมฟิตเนสและออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มพลังงานและสมรรถภาพทางกาย

ความสำคัญของการนำเสนอบริการกายภาพบำบัด

การนำเสนอบริการกายภาพบำบัดเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง การมีทีมวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการกายภาพบำบัดเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้รับการบำบัดได้รับการดูแลและการฝึกซ้อมที่มีประสิทธิภาพอย่างเหมาะสม

ผลการศึกษาและวิจัยที่เกี่ยวข้อง

มีการศึกษาและวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของกายภาพบำบัดในการช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าการฝึกซ้อมและการกายภาพบำบัดสามารถช่วยลดเวลาในการฟื้นฟูและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้

การนำเสนอบริการกายภาพบำบัดในสถานที่ต่างๆ

บริการกายภาพบำบัดสามารถนำเสนอให้แก่ผู้ที่ต้องการบริการทั้งในโรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ คลินิกทางการแพทย์ หรือศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งการให้บริการในสถานที่ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัด

การป้องกันและรักษาอาการบาดเจ็บ

นอกจากการบำบัดทางกายภาพบำบัดแล้ว การป้องกันอาการบาดเจ็บก่อนเกิดจึงมีความสำคัญ เช่น การฝึกสมาธิในการทำกิจวัตรประจำวัน การใช้อุปกรณ์ป้องกันอาทิตย์สำคัญ เป็นต้น

สรุป: กายภาพบำบัดเป็นวิธีการที่สำคัญในการช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ มันมีประโยชน์มากมายที่สามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้รับการบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรคตาในผู้สูงอายุ ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม

การดูแลสุขภาพตาของผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากโรคตามักเป็นภัยร้ายที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการดำรงชีวิตประจำวัน โรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุมีความหลากหลาย ตั้งแต่สาเหตุการเกิดโรคตาที่เสื่อมไปจนถึงผลกระทบต่อการมองเห็น ในบทความนี้เราจะพูดถึงโรคตาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุและวิธีการป้องกันและรักษาเบื้องต้น

การรักษาและป้องกันโรคตาในผู้สูงอายุ

  • โรคต้อกระจกเสื่อม

โรคต้อกระจกเสื่อมเป็นหนึ่งในโรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ มันสามารถทำให้สายตาเริ่มหมุนเวียนหรือเป็นลวดลาย ทำให้มองเห็นภาพเป็นภาพคล้ายหลอดแสง วิธีการป้องกันโรคต้อกระจกเสื่อมรวมถึงการรักษาสุขภาพโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สำหรับตา เช่น ผักใบเขียวและผลไม้ที่มีสีสดใส และการใช้แว่นตาที่เหมาะสมในการรักษาสายตา

  • โรคเบาหวานที่มีผลกระทบต่อตา

โรคเบาหวานสามารถทำให้เกิดโรคตาเช่น เส้นเลือดหลอดในดวงตาอุดตันได้ ทำให้เกิดภาวะสายตาหรือสายตาขาดเพราะการทำลายหรืออุดตันของเส้นเลือด ผลกระทบของโรคเบาหวานต่อตาสามารถป้องกันได้ด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเข้มงวด การตรวจสอบสุขภาพตาเป็นประจำ และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์สำหรับสายตา

ใครควรตรวจสุขภาพดวงตา?

ทุกคนควรได้รับการตรวจสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอในทุกเพศ ทุกวัยและทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากโรคทางตาที่พบบ่อยหรือการเปลี่ยนแปลงของสายตามักจะเริ่มที่ช่วงอายุนี้ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือต้อชนิดต่างๆ ที่อาจส่งผลไปสู่การสูญเสียดวงตาได้

  • กลุ่มคนมีโรคประจำตัว

โรคประจำตัวเช่น วัณโรค โรคเบาหวาน โรคความดัน ผู้ป่วยไทรอยด์ (บางกลุ่มอาจมีอาการบวมบริเวณดวงตา) โรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันร่างกายที่ต้องทานยากดภูมิ โรคที่ต้องใช้ยาสเตียรอยด์จำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความดันตาและมีผลต่อภาวะต้อกระจกและต้อหิน

  • กลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพดวงตา

ผู้ที่มีสายตาสั้น-ยาว สายตาเอียง ตาเข ตาเหล่ ผู้ที่เคยผ่าตัดดวงตา ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา หรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคต้อหิน ต้อกระจก เส้นจอประสาทตาเสื่อม ควรได้รับการตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียดเป็นประจำทุกปี

  • กลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป

โรคตา เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคิดว่าเกิดจากความเสื่อมตามวัยจึงไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไหร่นัก อีกทั้งยังพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักมีปัญหาสายตาเลือนราง มองเห็นไม่ชัด หรืออาจตาบอดถ้าไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรก โดยมีโรคตาเช่น ต้อกระจก เบาหวานขึ้นจอตา ต้อหิน และโรคจอตาอื่นๆ ที่ต้องระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเสียหายในสายตาและรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม

สรุป

การดูแลสุขภาพตาของผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันโรคตาที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความอิสระในการดำรงชีวิตของพวกเขา โรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุรวมถึงโรคต้อกระจกเสื่อมและโรคเบาหวานที่มีผลกระทบต่อตา เพื่อป้องกันการเสียหายในสายตาและสุขภาพโดยรวม ควรมีการตรวจสอบสุขภาพตาเป็นประจำและดูแลสุขภาพอย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง

การดูแลผู้ป่วยให้อาหารทางสาย

ดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้อาหารทางสายยาง ไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน

การดูแลผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะเพื่อความเหมาะสมของสภาพและสุขภาพของพวกเขาเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ในกรณีของผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องได้รับอาหารทางสายยาง เราต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ให้บริการด้านการดูแล บำบัด และฟื้นฟูแบบครบวงจร เพราะเราพร้อมดูแลท่านเหมือนกับ ” คนในครอบครัว ” บ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

การเตรียมอาหารทางสายยางให้ถูกวิธี

ขั้นตอนการเตรียมอาหารทางสายยาง

การเตรียมอาหารทางสายยางสำหรับผู้ป่วยติดเตียงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารถูกเตรียมอย่างถูกต้องและปลอดภัย ขั้นตอนสำคัญรวมไปถึงการล้างมือให้สะอาดก่อนการเตรียม, เลือกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เหมาะสม, และตรวจสอบความถูกต้องของอาหารก่อนการให้ผู้ป่วย

การเตรียมตัวในการใส่สายยางให้อาหาร มีอะไรบ้าง

1.จัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับการให้อาหารทางสายยาง เช่น อาหารเหลวหรืออาหารสำเร็จรูป ถุงให้อาหารทางสายยาง อุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์และมือของผู้ที่จะให้อาหารโดยสำลีและแอลกอฮอล์ให้เรียบร้อย

2.จัดเตรียมท่านอนของผู้ป่วยให้เหมาะสมต่อการให้อาหารทางสายยาง  โดยต้องจัดให้ศีรษะของผู้ป่วยอยู่สูงอย่างน้อย 45 องศา

3.หากเป็นผู้ป่วยที่เจาะคอ ให้ทำความสะอาดเส้นทางการผ่านของอาหารก่อน โดยการดูดเสมหะออกเพื่อเคลียร์ทางเดินอาหาร

การควบคุมคุณภาพอาหาร

การควบคุมคุณภาพของอาหารทางสายยางมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนหรือการติดเชื้อจากอาหาร ควรเลือกอาหารที่สะอาดและปลอดภัย และใช้วิธีการเตรียมอาหารที่เหมาะสม เช่น การใช้เทคนิคการทำความสะอาดและการควบคุมอุณหภูมิอาหาร

การตรวจสอบอาการและการติดตามผลของการให้อาหาร

การตรวจสอบอาการของผู้ป่วย

การตรวจสอบอาการของผู้ป่วยหลังจากการให้อาหารทางสายยางมีความสำคัญ เพื่อตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ไม่พึงประสงค์หรือมีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการให้อาหาร และทำการรายงานและแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์โดยเร็ว

การติดตามผลของการให้อาหาร

การติดตามผลของการให้อาหารทางสายยางเป็นการประเมินผลของการดูแลผู้ป่วย โดยต้องมีการตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีการดูแลที่เหมาะสมและอาหารถูกให้ตามคำสั่งแพทย์หรือไม่ และต้องทำการปรับปรุงแผนการดูแลต่อไปในกรณีที่มีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนที่จำเป็น

ข้อควรระวังในการใส่สายยางให้อาหาร มีอะไรบ้าง

1.เช็ดความสะอาดอุปกรณ์ให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างการให้อาหารทางสายยาง

2.ดูดเสมหะออกจากลำคอของผู้ป่วยก่อนให้อาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้เสมหะไหลลงสู่ทางเดินอาหาร

3.ในขณะให้อาหารทางสายยางต้องระวังมิให้ลมเข้ากระบอกอาหาร เพื่อป้องกันมิให้ลมเข้าสู่กระเพาะอาหารอันอาจทำให้ผู้ป่วยท้องอืดได้

การที่ญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยเรียนรู้วิธีการให้อาหารทางสายยาง ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากในการดูแลผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้ผู้ดูแลควรทำการศึกษาวิธีการให้อาหารทางสายยางที่ถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและเพื่อสุขอนามัยที่ถูกต้องในการดูแลผู้ป่วยให้ถูกต้องด้วย

สรุป

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้อาหารทางสายยางเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ การเตรียมอาหารทางสายยางอย่างถูกวิธีและการควบคุมคุณภาพของอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการฟื้นตัว การตรวจสอบอาการและการติดตามผลของการให้อาหารเป็นการประเมินผลของการดูแลและสามารถช่วยปรับปรุงแผนการดูแลให้เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที

โรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ

การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ที่พบได้บ่อย ซึ่งการรู้และเข้าใจถึงโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

1. โรคหลอดเลือดสมอง

สาเหตุและอาการของโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองเกิดจากหลอดเลือดสมองที่ถูกอุดตันหรือแตก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเสียหายในส่วนของสมองที่ได้รับเลือดไม่เพียงพอ อาการที่พบได้จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ของสมองที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงความรุนแรงของการเป็นโรค อาการที่พบได้รวมไปถึงอาการปวดศีรษะ, อ่อนเพลีย, สมองเสื่อม, หรือปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เป็นต้น

การดูแลและการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

การดูแลสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยควรรักษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ดี เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ, การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์, และการควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้การตรวจสุขภาพประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

2. โรคพาร์กินสัน

สาเหตุและอาการของโรคพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสันเป็นโรคที่เกิดจากการสลายลงของเซลล์สมองในส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งอาการสำคัญที่พบได้รวมถึงอาการสั่น, ติดต่อกันได้, หรือมือสั่น รวมทั้งอาการความไม่มั่นคงในการเดิน ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันได้ยากลำบาก

การดูแลและการป้องกันโรคพาร์กินสัน

การดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสันจำเป็นต้องมีการรักษาทางการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพที่ดี เช่นเดียวกับการทำกิจกรรมทางการกายภาพและสมาธิ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการได้ดีขึ้น นอกจากนี้การให้การสนับสนุนทางจิตใจและการสนับสนุนจากครอบครัวและญาติก็มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสันให้สามารถเผชิญกับโรคได้อย่างมั่นคง

3. โรคข้อเข่าเสื่อม

สาเหตุและอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อผิวกระดูกอ่อนหรือเสื่อมสภาพตามวัย ซึ่งอาการสำคัญที่พบได้รวมถึงอาการปวดข้อเข่า, ระบบข้อแข็ง, หรือรู้สึกถูกข้อ โดยมักพบมากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน, ชอบนั่งพับเพียบ, หรือนั่งขัดสมาธิ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ง่ายขึ้น

การดูแลและการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม

การดูแลสุขภาพที่ดีและการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้การฝึกออกกำลังกายที่เหมาะสมและการใช้วิธีการที่ถูกต้องในการนั่ง, ยืน, และเดิน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ภาวะซึมเศร้า

สาเหตุและอาการของภาวะซึมเศร้า

ภาวะซึมเศร้าเป็นภาวะทางจิตใจที่ผู้ป่วยจะมีอารมณ์เศร้าหรือเสียใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจมีอาการเจ็บป่วยทางร่างกายและรู้สึกเหนื่อยหรือไม่มีแรงเป็นต้น ภาวะซึมเศร้ามักพบมากในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพหรือสภาพความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ

การดูแลและการป้องกันภาวะซึมเศร้า

การให้การสนับสนุนทางจิตใจและการรักษาทางจิตเวชเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้การให้การดูแลและการสนับสนุนจากครอบครัวและญาติก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นภาวะซึมเศร้าสามารถผ่านวิกฤตได้ด้วยความมั่นใจ

5. ภาวะสมองเสื่อม

สาเหตุและอาการของภาวะสมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อสมองทำงานเสื่อมถอยลง ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องความจำ, กระบวนการคิด, พฤติกรรมการใช้ชีวิต, รวมถึงการแสดงออกทางอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะมีความรุนแรงและความชัดเจนขึ้นเมื่อโรคเริ่มก้าวไปสู่ขั้นตอนที่รุนแรงขึ้น

การดูแลและการป้องกันภาวะสมองเสื่อม

การฝึกสมองและการช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นภาวะสมองเสื่อม นอกจากนี้การรักษาและการดูแลที่เหมาะสมจากทีมแพทย์และผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย

สรุป

การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากพวกเขามักมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ที่พบได้บ่อย โดยการรู้และเข้าใจถึงโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุจะช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

📢 ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน ( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895

• Line : https://lin.ee/cJwaF2g

หรือ @baanlalisacm (มี @)

🚩 เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

สร้างกิจกรรมให้ผู้สูงอายุ ลดผลกระทบด้านจิตใจ

สร้างจิตใจที่แจ่มใสให้ผู้สูงอายุด้วยกิจกรรมทางสังคม

การดูแลผู้สูงอายุไม่เพียงแค่ดูแลในเรื่องร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงด้านจิตใจและความสุขของผู้สูงอายุด้วย การมีกิจกรรมทางสังคมมีความหมายและสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ เพราะสามารถช่วยสร้างจิตใจที่แจ่มใสและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหาสภาพจิตใจของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่เจอ เกิดจากความสูญเสียของคนในครอบครัวที่เคยอยู่ใกล้ชิดหรือเพื่อนสนิทที่ล้มหายไปจากโลกนี้ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงในสังคมและโลกภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ปัญหาที่เกิดขึ้น
1. การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์: ผู้สูงอายุอาจเสียสละเหงาและรู้สึกว้าวุ่นหรือเบื่อเบื่อ
2. ความไม่เห็นคุณค่าในตนเอง: มีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าตนไม่มีค่าความหมายในสังคมและตัวเอง
3. ขาดความกำลังใจ: มีความเกี่ยวข้องกับโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง

การรับมือ
1. การเสริมสร้างอารมณ์บวก: ฝึกให้มีการมองโลกในแง่บวกและการฟังเพลงหรือการดูภาพยนตร์ที่ทำให้รู้สึกดี
2. การสร้างความสัมพันธ์ใหม่: การเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนหรือกิจกรรมที่มีความสนุกสนาน
3. การให้ความสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนสนิท: การให้ความเข้าใจและความรักจากคนที่ใกล้ชิดสามารถเป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสุขให้กับผู้สูงอายุ

การรับมือกับปัญหาทางจิตใจของผู้สูงอายุต้องการการสนับสนุนและการดูแลที่เหมาะสมเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขในวัยที่สูงขึ้นได้อย่างสมบูรณ์และมีคุณภาพ จึงทำให้ความสำคัญในเรื่องของกิจกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับผู้สูงอายุ

1. แนะนำกิจกรรมที่เน้นความสนุกสนานและบันเทิง
การสร้างความสนุกและบันเทิงสำหรับผู้สูงอายุช่วยให้พวกเขารู้สึกมีความสุขและมีความสมดุลในชีวิตอีกครั้ง กิจกรรมเช่น การเล่นเกมที่มีกลไกง่ายๆ การเต้นรำหรือการฟังเพลงที่เพลิดเพลิน สามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเสริมสร้างจิตใจให้แจ่มใสต่อผู้สูงอายุได้ดี

1.1 เล่นเกมสำหรับการฝึกสมอง
เกมที่ต้องใช้การคิดเช่นเกมสุดยอดทายคำหรือเกมต่างๆ ที่สามารถช่วยให้สมองของผู้สูงอายุช่วยในเรื่องการฝึกใช้สมองลดการเป็นอัลไซเมอร์ ช่วยกระตุ้นในเรื่องความจำ เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีภาวะสมองเสื่อมได้ง่าย

2. สร้างความสัมพันธ์และเชื่อมโยงทางสังคม
การมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงทางสังคม ให้มีกิจกรรมพูดคุยเล่นเกมส์ ทำกิจกรรมร่วมกับผู่อื่น และเข้าสังคมกับคนรอบข้างได้ดี เสริมสร้างการออกกำลังในกิจกรรมในขณะเดียวกันก็ส่งผลดีต่อผู้ให้ในแง่ของสุขภาพและทำให้จิตใจเบิกบาน ให้มีความสุขในการดำรงชีวิตต่อได้

3. กิจกรรมตามประเพณีและศาสนา
เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเนื่องในเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ หลังจากลูกหลานต้องแยกย้ายกันทำงาน ในโอกาสนี้ควรกลับบ้านเพื่อเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ นี่เป็นช่วงเวลาที่จะได้พบปะกับครอบครัว ใช้เวลาพร้อมหน้าพร้อมตาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอย่างเช่นรดน้ำดำหัว

4. กิจกรรมธรรมปฏิบัติ
การปฏิบัติธรรมเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ เนื่องจากมันช่วยเสริมสร้างความสุขและสงบใจให้กับพวกเขาในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรมที่เน้นการสวดมนต์เพื่อระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมถึงการถือศีล 5 หรือศีล 8 ที่มีความหมายในการเสริมสร้างจิตใจและความเข้าใจในความเป็นไปของโลก

สรุป
การสร้างจิตใจที่แจ่มใสให้ผู้สูงอายุด้วยกิจกรรมทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสุขและคุณภาพชีวิต โดยการเล่นเกมที่มีความสนุกสนาน การสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม และการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เป็นเพียงบางส่วนของกิจกรรมที่สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่มีคุณค่าและความสุขได้อย่างแท้จริง

ให้บริการด้านการดูแล บำบัด และฟื้นฟูแบบครบวงจร เพราะเราพร้อมดูแลท่านเหมือนกับ ” คนในครอบครัว “

บ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน
( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )
สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด
• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g
หรือ @baanlalisacm (มี @)
🚩 เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

การดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง สามารถดูแลที่ศูนย์รับดูแลผู้ป่วยสูงอายุได้หรือไม่

บ้านลลิสา Nursing Home การดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง สามารถดูแลที่ศูนย์รับดูแลผู้ป่วยสูงอายุได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบให้คุณแล้ว

การดูแลผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จำเป็นต้องมีแนวทางในการดูแลที่ให้ความสำคัญกับการดูแลแบบประคับประคองด้านร่างกาย

บ้านลลิสาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงอย่างไร

บ้านลลิสา มีการดูแลโดยแพทย์ พยาบาล นักกำหนดอาหาร นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองและมีประสบการณ์ในการรับมือกับปัญหาเฉพาะต่างๆในผู้ป่วยประคับประคอง ได้แก่ อาการเหนื่อยต้องใช้ออกซิเจน ต้องดูดเสมหะ ให้อาหารทางสายยาง การดูแลให้ยาแก้ปวด โดยมีการประเมินผู้ป่วยดังต่อไปนี้

  1. ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องดูแลการขับถ่าย

2. ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง

3. ผู้ป่วยที่ต้องพึ่งอุปกรณ์ต่างๆ เช่นเครื่องช่วยหายใจ การให้ออกซิเจน

การดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง สามารถดูแลที่ศูนย์รับดูแลผู้ป่วยสูงอายุได้เพราะผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จึงจำเป็นต่อการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะบ้านลลิสามีสถานที่ปลอดโปร่ง สะอาด มีกิจกรรมสันทนาการให้เลือกทำตามความเหมาะสม มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย พร้อมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และนักกายภาพบำบัด ดูแลอย่างไกล้ชิด

สรุป

การดูแลผู้สูงอายุที่ศูนย์รับดูแลเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการให้บริการที่มีคุณภาพสูงและเชี่ยวชาญ การเตรียมพื้นที่และการให้สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมมีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ โปรแกรมดูแลแบบบริการบ้านเป็นทางเลือกที่ให้ความสำคัญกับการดูแล

ให้บริการด้านการดูแล บำบัด และฟื้นฟูแบบครบวงจร เพราะเราพร้อมดูแลท่านเหมือนกับ ” คนในครอบครัว ” บ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

  • ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน
  • ( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )

ชลอความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ

การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงเป็นภาระที่หนักทั้งต่อครอบครัวและสังคมทั้งหมด ในบทความนี้เราจะสนใจถึงการชลอความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมในกลุ่มผู้สูงอายุ

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพสมอง

การตรวจสุขภาพสมองในระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากโรคสมองเสื่อมมักเริ่มจากอาการเล็กน้อยที่ไม่ค่อยมีอาการ การตรวจสุขภาพสมองที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วยให้พบปัญหาทันทีและดำเนินการรักษาให้เหมาะสม

สิ่งที่สามารถทำเพื่อลดความเสี่ยง

การดูแลสุขภาพสมองไม่จำเป็นต้องฝึกฝนให้ยากลำบากมากนัก การส่งเสริมกิจกรรมทางสมองเช่น การทำบทสรุปวิจัย, การอ่าน, หรือการเรียนรู้ใหม่ๆ มีผลดีต่อสุขภาพสมอง และสามารถลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้

บทบาทของโภชนาการที่ถูกต้อง

การบริโภคอาหารที่มีสารอาหารที่เสริมสร้างสุขภาพสมอง เช่น โอเมก้า-3 และวิตามินที่เกี่ยวข้อง เป็นส่วนสำคัญของการช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม การปรับเปลี่ยนเพิ่มพูนผัสอาหารที่เหมาะสมในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การชลอความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ส่งเสริมการตรวจสุขภาพสมองทันที, กระตุ้นกิจกรรมทางสมอง, และพัฒนาโภชนาการที่ถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงและส่งเสริมสุขภาพสมองในระยะยาว

📢 ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน

( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )

=====================

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895

• Line : https://lin.ee/cJwaF2g

หรือ @baanlalisacm (มี @)

🚩 เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

อัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุอาการที่คนไกล้ตัวสังเกตได้

การเจอกับคนที่คุณรักเริ่มแสดงความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม อาทิ ถามคำถามเดิมซ้ำๆ หรือลืมเรื่องสำคัญ หรือแม้แต่เริ่มหงุดหงิดง่ายขึ้น นั่นอาจเป็นเครื่องหมายบางอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ โรคที่เป็นภัยเงียบและเป็นที่พบมากในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม การเข้าใจและการตระหนักเกี่ยวกับอาการของโรคนี้สามารถช่วยในการระบุและจัดการกับสถานการณ์ได้เร็วขึ้น

โรคอัลไซเมอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก ดังนี้:

ระยะที่ 1: ความหลงลืมเริ่มปรากฏ ซึ่งสามารถเห็นได้จากการลืมสิ่งเล็กๆ เช่น ลืมปิดไฟหรือลืมการทานอาหาร พร้อมกับการถามเรื่องเดิมซ้ำๆ ทั้งนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยของอาการที่จะพัฒนามากขึ้น

ระยะที่ 2: อาการหลงลืมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยบางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องจำบ้านหรือเดินออกจากบ้านโดยไม่มีจุดหมาย ความหงุดหงิดและพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงเริ่มเป็นปัญหา ทำให้การดูแลเพิ่มขึ้น

ระยะที่ 3: ความรุนแรงของอาการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีการเสียสละสิทธิ์ในการดูแลตัวเอง สุขภาพและฟังก์ชันทางสมองเสื่อมลงอย่างรุนแรง การสนทนาและการเคลื่อนไหวมีความจำกัด ต้องการการดูแลที่ใกล้ชิดและอุปกรณ์ช่วยเหลือ

ดังนั้น การรู้จักและเข้าใจอาการของโรคอัลไซเมอร์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตและดูแลผู้ที่คุณรักได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ. ที่ “บ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ”

เรามุ่งเน้นให้บริการดูแลที่อบอุ่นและเหมาะสมกับทุกระยะของโรคอัลไซเมอร์ เพื่อให้ครอบครัวคุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในทุกช่วงวัย

📢 ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน
( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )
=====================
สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด
• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g
หรือ @baanlalisacm (มี @)
🚩 เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#ผู้ป่วยติดเตียง#เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่#NursingHome#NursingHomeเชียงใหม่#ChiangMaiNursingHome#ดูเเลผู้ป่วยครบวงจร#บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น#กายภาพ#กายภาพบำบัด#ผู้ป่วยติดเตียงกายภาพ#กายภาพผู้ป่วย#กายภาพผู้สูงอายุ#โรคอัลไซเมอร์

สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนกายภาพบำบัด

การประเมินคนไข้เป็นกระบวนการที่สำคัญในการให้บริการดูแลและทำกายภาพฟื้นฟูที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์การดูแลสุขภาพที่มีชื่อเสียงในเชียงใหม่

การประเมินร่างกายก่อนกายภาพบำบัด

1. ประวัติการรักษาและสุขภาพ

  • โรคประจำตัว: ควรทราบถึงโรคประจำตัว, การผ่าตัด, หรือการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ ที่ผู้สูงอายุได้รับมาก่อนหน้านี้.
  • ความผิดปกติทางกาย: ประวัติการเกิดภาวะอาการไม่ปกติหรือบาดเจ็บที่ส่งผลต่อร่างกาย.

2. ความสามารถในการเคลื่อนที่และการทำงานของร่างกาย

  • ความสามารถในการเคลื่อนที่: ประเมินระยะทางที่ผู้สูงอายุสามารถเดิน, ยืน, หรือขยับรวมไปถึงการนั่ง การทรงตัว
  • การทำงานของร่างกาย: ความสามารถในการเคลื่อนไหว, สมรรถนะของกล้ามเนื้อ, และปัญหาทางกายภาพอื่น ๆ.

3. การประเมินความต้องการและความสามารถ

  • การประเมินความต้องการด้านการดูแล: สำรวจความต้องการเฉพาะของผู้ป่วยในด้านต่าง ๆ อาทิ การดูแลแพทย์, การดูแลพยาบาล, และการดูแลจิตใจ.
  • การประเมินความสามารถ: ทดสอบและประเมินความสามารถของร่างกายในการดำเนินกิจกรรมประจำวันของผู้ป่วย.

4. การวางแผนการดูแล

  • จากการประเมินทั้งหมดนี้ ผู้ให้บริการจะวางแผนการดูแลที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย รวมถึงการเลือกวิธีการรักษาและการดูแลที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพของผู้ป่วย.

บริการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ ทีมแพทย์และผู้บำบัดกายภาพจะสามารถวางแผนและปรับปรุงการบำบัดผู้ป่วยให้เหมาะสมและปลอดภัย

#บ้านลลิสา พร้อมดูแลทุกคนด้วยใจ

ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน ( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )

———————————–

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

โทร. 053-855008 , 088-2591895

Line : https://lin.ee/cJwaF2g

หรือ @‌baanlalisacm (มี @)

🚩 เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#ผู้ป่วยอัลไซเมอร์#เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่#NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่#ChiangMaiNursingHome

#ดูเเลผู้ป่วยครบวงจร#บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น