Author: admin

#บ้านลลิสา ( 𝐍𝐮𝐫𝐬𝐢𝐧𝐠 𝐇𝐨𝐦𝐞 ) ” สถานพักฟื้นดูแลสุขภาพผู้ป่วย และผู้สูงอายุ “

พร้อมดูแล ผู้ป่วย และผู้สูงอายุอย่างใส่ใจ และใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ ที่จะคอยดูแล

อย่างถูกวิธี ตลอด 𝟐𝟒 ชั่วโมง รับรองได้เลยว่าปลอดภัยอย่างแน่นอนอีกทั้งยังมีการดูแลอย่างครอบคลุม ทั้งเรื่องของอาหารสถานที่ กว้างขวาง สะอาด เป็นระเบียบ และยังมีกิจกรรมบำบัด และการบริหารร่างกายผู้ป่วยเป็นอย่างดีรับรองว่าไม่ทำให้ผู้ป่วย และผู้สูงอายุเหงาแน่นอน

ไว้ใจให้ #บ้านลลิสา ช่วยดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ที่คุณรักสิคะ เพราะเราพร้อมดูแลเหมือนกับ ” คนในครอบครัว ”

ราคาเริ่มต้น 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน ( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )

===== ===== ===== ===== =====

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#ดูแลผู้ป่วยติดเตียง #เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่ #NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่ #ChiangMaiNursingHome

#ดูเเลผู้ป่วยครบวงจร #บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น

ความต้องการ สารอาหาร เเละ พลังงานในผู้สูงวัยนั้นอาจมีความเเตกต่างไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลในวัยอื่นๆเพียงเเต่ในผู้สูงวัยนั้นอาจต้องลดปริมาณเเละจำนวนอาหารลง เเต่ก็ยังคงต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เหมือนเดิมเเต่เเล้วควรรับประทานอาหารอย่างไรให้เหมาะสม วันนี้ บ้านลลิสา เรามีคำตอบมาให้คุณเเล้วค่ะ

ลดปริมาณแป้งและไขมัน

เมื่ออายุมากขึ้น ระบบการเผาผลาญย่อมลดลงดังนั้นผู้สูงอายุ จึงควรลดการทานแป้ง อาหารฟาสฟู๊ตอาหารที่มีไขมันมาก เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดและน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

เน้นทานผัก เเละผลไม้ที่หวานน้อย

การรับประมานอาหารประเภทที่มีกากใยสูงในทุก ๆ มื้อ สามารถช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายให้สมดุล และเพิ่มแร่ธาตุ วิตามินช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายยกตัวอย่าง อาหารที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวโอ๊ต ถั่วชนิดต่างๆส่วนการเลือกทานผลไม้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เช่น ทุเรียน ขนุน ลำไย มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นต้น

หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เเละลดโซเดียม

โซเดียมมักจะได้มาจากการรับประทาน‘เกลือ’ ที่มักพบในเครื่องปรุง อีกทั้งโซเดียมมักพบมากในอาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งถ้าหากผู้สูงอายุ ได้รับประทานโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลให้มีความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติได้

ดื่มน้ำให้เพียงพอในเเต่ละวัน

ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำประมาณ 1 ลิตรหรือ 6 – 8 แก้ว ต่อวัน ตามความต้องการของร่างกาย โดยสังเกตจากสีของปัสสาวะหากมีเหลืองอ่อนๆ เกือบขาว แสดงว่าน้ำในร่างกายเพียงพอแล้ว เเต่ถ้ามีสีเข็มก็ควรเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำให้มากขึ้น

การดูแลด้านอาหาร และโภชนาการถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่เเข็งเเรงสมบูรณ์

บ้านลลิสา (Nursing Home) สาขาเมืองเชียงใหม่เราให้คุณมากกว่าการพักฟื้น ด้วยการมอบความห่วงใยสร้างความอุ่นใจ เเละดูเเลคุณเหมือนกับสมาชิกภายในครอบครัว

#บ้านลลิสา ( 𝐍𝐮𝐫𝐬𝐢𝐧𝐠 𝐇𝐨𝐦𝐞 ) ❝ สถานพักฟื้นดูแลสุขภาพผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ❞

พร้อมดูแล ผู้ป่วย และผู้สูงอายุอย่างใส่ใจ และใกล้ชิดโดยเรามีทุกอย่างอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น . .

มีอาหารที่มีประโยชน์

เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายที่จะนำไปใช้ในการบำรุงร่างกาย และเพื่อสุขภาพที่ดี

พยาบาลที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เรามีพยาบาลที่คอยดูแลผู้ป่วย และผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดรับรองได้เลยว่าทุกท่านที่เข้ามาที่บ้านลลิสาจะได้รับการดูแลที่ใกล้ชิดแน่นอน

กิจกรรมนันทนาการและการกายภาพ

นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมนันทนาการ ทั้งการออกกำลังกายกิจกรรมบำบัด และการกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูอย่างถูกวิธี

ที่พักที่มีความสะอาด ปลอดภัย

บ้านลลิสาของเรานั้นสะอาด ปลอดภัย มีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย และผู้สูงอายุ ทำให้ไม่อึดอัด และอยู่อย่างมีความสุขทั้งทางกาย และสภาพจิตใจ

มีการรักษาฟื้นฟูอย่างถูกวิธี

เรามีทีมหมอ และพยาบาลที่จะคอยดูแลผู้ป่วย และผู้สูงอายุอย่างถูกวิธี ที่จะช่วยฟื้นฟูอาการให้ดีขึ้น

ดังนั้น ไว้ใจให้ #บ้านลลิสา ช่วยดูแลผู้ป่วย และผู้สูงอายุสิคะ เรารับรองได้เลยว่า จะไม่น่าเบื่ออย่างที่ทุกคนคิด

ด้วย #แพ็คเกจการดูแล ‘ ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยพักฟื้น ‘เริ่มต้นเพียงเดือนละ 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#บ้านลลิสา #เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่ #NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่ #ChiangMaiNursingHome

#ดูแลผู้ป่วยครบวงจร #บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น

ผู้สูงอายุเมื่อมีอายุมากขึ้น ร่างกายและอวัยวะหลายๆ ส่วนอาจเสื่อมสภาพ ประกอบกับการไม่ค่อยได้ใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ส่งผลให้ความสามารถในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ถดถอยลง จนอาจนำไปสู่การติดเตียง

ผู้ป่วยติดเตียง คือ ผู้ป่วยที่มีความเจ็บป่วยเรื้อรังจนเกิดสภาวะร่างกายเสื่อมโทรมทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนคนปกติ ผู้ป่วยจึงไม่อาจเลี่ยงที่จะต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานๆ จึงจำเป็นที่ผู้ป่วยติดเตียงจะต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ

วันนี้ #บ้านลลิสา จะมาแชร์วิธีการดูแลสำหรับผู้ป่วยติดเตียง กับ 𝟓 สิ่งที่ต้องระมัดระวัง สำหรับการดูแลผู้ป่วยติดเตียง

𝟏. แผลกดทับ

สาเหตุของแผลกดทับมักจะมาจากการที่ผู้ป่วยนอนนานๆ ทำให้บริเวณที่เป็นปุ่มกระดูกต่างๆ ขาดเลือดมาเลี้ยงที่บริเวณผิวหนังจากการกดทับ ดังนั้นผู้ดูแลควรหมั่นพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยทุกๆ 𝟐 ชั่วโมง เช่น นอนหงายไปนอนตะแคงสลับซ้าย-ขวากันไปมา นอกจากนี้ควรใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยติดเตียงโดยเฉพาะมาใช้ เช่น เตียงลม เตียงเจล

𝟐. ความสะอาด

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงจะต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการขับถ่าย เช่น ปัสสาวะ หรืออุจจาระ การดูแลช่องปาก รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่จะต้องสะอาด อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ และลดความเสี่ยงในการติดเชื้ออีกด้วย

𝟑. การรับประทานอาหาร

ควรปรับเตียงให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่ง เพื่อลดความเสี่ยงในการสำลักอาหาร ทั้งระหว่างและหลังรับประทานอาหาร 𝟏 ชั่วโมง หากผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการสำลักอาหาร ควรเลือกอาหารที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสำลักอาหารจนหลุดเข้าไปในหลอดลม เสี่ยงอาการปอดติดเชื้อ

𝟒. สุขภาพจิต

ผู้ป่วยมักมีอาการเครียดจากการที่ไม่สามารถทำอะไรเองได้เช่นเดิม ดังนั้น ครอบครัว คนใกล้ชิด และ ผู้ดูแลจึงควรหากิจกรรมต่างๆ มาทำร่วมกับผู้ป่วย ชวนคุย เพื่อช่วยลดความเครียดของผู้ป่วย รวมถึงหมั่นมาดูแลให้กำลังใจผู้ป่วยด้วย

𝟓. สุขภาพกาย

ผู้ป่วยติดเตียงควรได้รับการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการยึดติดของข้อต่อ รวมถึงการเพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อ การกายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อของผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยลุกขึ้นมานั่งและยืนช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ปอดขยายได้เต็มที่ รวมถึงช่วยลดการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทั้งนี้จุดมุ่งหมายในการทำกายภาพบำบัดก็เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

#บ้านลลิสา หวังว่าข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ นี้จะช่วยให้ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงได้ทราบวิธีการดูแลอย่างถูกวิธี จะได้ทำให้พวกเขาจะไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับมากนักช่วยลดการติดเชื้อได้รับสารอาหารครบถ้วนและถูกขับถ่ายออกมาอย่างถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระของผู้ดูแลให้น้อยที่สุดอีกด้วยนะครับ

บ้านลลิสาเราพร้อม #ดูแลรักษาผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ที่เข้ามาพักฟื้นอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. โดยทีมนักกายภาพบำบัดและพยาบาลวิชาชีพผู้เชี่ยวชาญมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับการรักษาที่ดี และ ตรงจุดที่สุด

เริ่มต้นเพียง 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน ( จากปกติ 𝟐𝟓,𝟎𝟎𝟎.-/เดือน )

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#ดูแลผู้ป่วยติดเตียง #เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่ #NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่ #ChiangMaiNursingHome

#ดูแลผู้ป่วยครบวงจร #บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น

#บ้านลลิสา จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาการที่บ่งบอกถึงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังมีสิทธิ์เสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ มาดูกันเลยค่ะ ว่ามีอาการอะไรบ้าง….

𝟏. ลืมบทสนทนาหรือเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเช่น ลืมในสิ่งที่เพิ่งผ่านเข้ามาเร็วๆ นี้ ลืมวันหรือเหตุการณ์สำคัญถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องอาศัยสิ่งช่วยจำ เช่น สมุดจดหรือบุคคลในครอบครัว คอยช่วยเหลือ

𝟐. วางของผิดที่ อาจไปวางในที่ที่ไม่น่าจะไปวางไว้ เช่น เก็บรองเท้าไว้ในตู้เย็น หรือเอาโทรศัพท์ไปไว้ในตู้เย็น

𝟑. ลืมหรือนึกชื่อสถานที่ สิ่งของไม่ออก เช่น เมื่อเดินทางไปสถานที่ที่เคยไป แต่ลืมชื่อ หรือนึกชื่อสถานที่ไม่ออกจำไม่ได้ว่าของสิ่งนี้เรียกว่าอะไร เรียกผิดๆ ถูกๆ

𝟒. ทำอะไรซ้ำๆ ย้ำๆ เช่น เราถามไปแล้ว ตอบไปแล้วก็ยังถามซ้ำคำถามเดิมย้ำอยู่หลายๆ ครั้ง

𝟓. ต้องใช้เวลาในการทำกิจวัตรประจำวันนานขึ้นกว่าปกติเนื่องจากลืมวันเวลา ไม่รู้ว่าใช้เวลาไปนานแค่ไหนแล้วจึงทำให้เวลาทำกิจวัตรประจำวันนั้นนานกว่าปกติมาก

𝟔. ความสามารถในการตัดสินใจต่ำ การตัดสินใจกลายเป็นเรื่องยาก เช่น ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรกับตนเอง ไม่ทำผม ไม่อาบน้ำ เมื่อจะไปงานสำคัญ

𝟕. ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้น้อยลง มีความลังเลที่จะทำสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น เช่น ปกติจะไปเล่นกีฬาพบปะเพื่อนทุกสัปดาห์ แต่วันหนึ่งกลับไม่ไปโดยไม่มีเหตุผลใดๆ

𝟖. อารมณ์แปรปรวนบ่อยครั้ง เช่น หงุดหงิด กระวนกระวายวิตกกังวลกว่าปกติ หรือมีอาการสับสนเป็นช่วงๆ

ทุกคนได้รู้เกี่ยวกับสัญญาณเตือนโรคอัลไซเมอร์กันแล้วหากคุณกำลังมีอาการสุ่มเสี่ยง เราแนะนำให้ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธี หรือถ้าอยากให้เราช่วยฟื้นฟู

ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ บ้านลลิสาเราพร้อมยินดีดูแลผู้ป่วยทุกคนค่ะ

ด้วย #แพ็คเกจการดูแล ‘ ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยพักฟื้น ‘ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#บ้านลลิสา #เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่ #NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่ #ChiangMaiNursingHome

#ดูแลผู้ป่วยครบวงจร #บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น

ดูแลด้วยรัก เอาใจใส่ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ บ้านลลิสา Nursing Home สาขาเมืองเชียงใหม่ ทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อคนที่คุณรัก เราพร้อมฟื้นฟู และดูแลสุขภาพร่างกายผู้สูงอายุ

ที่ #บ้านลลิสา ได้จัดกิจกรรมบำบัดกลุ่ม

❝ กิจกรรมปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ❞

เพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆของผู้สูงอายุ และการปลูกต้นไม้นั้นให้คุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพกับผู้ป่วยทุกกลุ่ม

ทางด้านร่างกาย
ส่งเสริมการออกกำลังกายที่ดีการเคลื่อนไหวของแขน ฝึกการใช้มือและนิ้วมือ อีกทั้งในผู้ป่วยบางรายยังช่วยส่งเสริมการใช้แขนและมือข้างเดียวในการทำกิจกรรม เพื่อทดแทนข้างอ่อนแรง

ทางด้านจิตใจ
ยามเจ็บไข้ได้ป่วย หากมีโอกาสได้ปลูกต้นไม้ได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ได้มีปฏิสัมพันธ์พูดคุย แลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมศูนย์จะสามารถทำให้จิตใจได้ผ่อนคลายอารมณ์แจ่มใสขึ้น เสริมสร้างความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง

ทางด้านความคิดความเข้าใจ
การส่งเสริมกิจกรรมต่างๆให้ผู้ป่วยได้ลงมือทำเอง โดยใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานของตนเองตั้งแต่กระบวนการคิด การทำตามตัวอย่างการทำตามขั้นตอน สามารถชะลอหรือป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้

ห่วงใย ใส่ใจ ประดุจคนในครอบครัวพร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อคนที่คุณรัก

วันนี้ #บ้านลลิสา จะมาบอกทุกคนให้รู้ อ่านไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

ทุกคนรู้ไหมคะ ว่า #ผู้ป่วยติดเตียง ปัจจุบันผู้ป่วยติดเตียงถูกแบ่งออกเป็นกลุ่ม และแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ โดยประเภทผู้ป่วยติดเตียงจะแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้ . .

1. ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีเขียว

เป็นผู้ป่วยติดเตียงระดับแรก อยู่ในระยะเริ่มต้นไปถึงปานกลางจัดว่าเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้มีอาการหนักมากนัก เพราะยังสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้บ้าง ดูแลตัวเองได้บ้าง สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้เองหลายอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องรับช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์หรือพยาบาลแต่ถึงอย่างนั้นผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีเขียวก็อาจมีภาวะทางสมอง หรือกล้ามเนื้อ ที่ต้องได้รับการดูแล และติดตามอย่างสม่ำเสมอ

2. ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีเหลือง

ผู้ป่วยติดเตียงในกลุ่มสีเหลือง เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง มีภาวะอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ หรืออาจจะเคลื่อนไหวร่างกายได้บ้างบางส่วนผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีภาวะอาการอัมพฤกษ์ จึงจำเป็นต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานานๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและทางเดินอาหารดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองจึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน และเพื่อดูแลรักษาสุขภาพให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

3. ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีแดง

ผู้ป่วยติดเตียงในกลุ่มสีแดง คือ ผู้ป่วยอัมพาตที่ไม่สามารถขยับร่างกาย ไม่สามารถพลิกตัว หรือลุกขึ้นนั่งเองได้ อีกทั้งยังไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่รู้สึกตัวจัดว่าเป็นผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางร่างกายขั้นรุนแรง ต้องนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษาสภาพร่างกายและอาการที่มีอยู่ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มสีแดงจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลทั้งจากผู้ดูแล และจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด

ดังนั้นการดูแลผู้ป่วยติดเตียง จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดหากดูแลไม่ถูกวิธี ให้ตรงกับผู้ป่วยในประเภทไหนก็จะทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการฟื้นฟู หรือรักษาได้ถูกวิธี จึงควรให้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และพยาบาลวิชาชีพที่ #บ้านลลิสา ช่วยดูแลสิคะ เพราะเราพร้อมดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุอย่างใส่ใจ และใกล้ชิด . . .

ด้วย #แพ็คเกจการดูแล ‘ ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยพักฟื้น ‘ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 𝟏𝟖,𝟎𝟎𝟎 บาท/เดือน

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#บ้านลลิสา #เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่ #NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่ #ChiangMaiNursingHome

#ดูแลผู้ป่วยครบวงจร #บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น

บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ จัดกิจกรรมใน “โครงการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น ฝึกซ้อมดับเพลิง อพยพหนีไฟ และอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำปี 2566” เพื่อความพร้อมในการป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมของบุคลากรในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ในวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2566 ณ บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากทีมวิทยากรจากเทศบาลหนองป่าครั่งและเทศบาลฟ้าฮ่าม จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันอัคคีภัย และทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขในภาวะภัยพิบัติที่มาให้ความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรของบ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่

เราใส่ใจทั้งเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยของผู้รับบริการ

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895
• Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)

เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#บ้านลลิสา #เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่ #NursingHome #NursingHomeเชียงใหม่ #ChiangMaiNursingHome

#ดูแลผู้ป่วยครบวงจร #บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น #กายภาพบำบัด #กิจกรรมบำบัด

ภาพบรรยายการ โครงการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น ฝึกซ้อมดับเพลิง อพยพหนีไฟ และอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำปี 2566

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะเริ่มอ่อนเเอเเละเสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ การออกกำลังกายจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีความเเข็งเเรงได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายได้อีกด้วย

วันนี้ บ้านลลิสา Nursing Home สาขาเมืองเชียงใหม่ เราจะมาเเนะนำ ❝การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ❞ จะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลยค่ะ .

การเดินหรือวิ่งช้าๆ

การเดินเป็นวิธีการออกกำลัง ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ(ยกเว้นผู้สูงอายุ ที่มีการเจ็บป่วยบริเวณขา หรือ ข้อเท้า) มีข้อควรปฏิบัติ คือควรเดินเร็วให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นหากเดินเร็วมากไม่ได้ ก็ควรเพิ่มระยะเวลาให้มากกว่าเดิม เเละควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของข้อเท้า

ว่ายน้ำหรือเดินในน้ำ

การออกกำลังกายในน้ำสำหรับผู้สูงอายุเหมาะกับผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมเพราะการว่ายน้ำช่วยลดแรงกระแทกโดยตรงกับพื้นแข็งช่วยในการฝึกกล้ามเนื้อในทุกส่วนของร่างกายและฝึกการหายใจอย่างเป็นระบบได้ สำหรับผู้สูงอายุที่ว่ายน้ำไม่เป็นสามารถออกกำลังกายได้โดยการเดินในน้ำไปมาเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงมากขึ้น

การออกกำลังกายในรูปโอทาโก (OTAGO Exercise Program)​

การออกกำลังกายเเบบโอทาโก้ (OTAGO)ถือเป็นรูปเเบบการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วยให้ผู้สูงอายุทรงตัวได้ดี เดินได้คล่องและลดอัตราการหกล้มได้ซึ่งหลักๆ จะมีทั้งหมด 10 ท่า

การทำกายบริหารท่าต่างๆ

ทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุ ที่ต้องการออกกำลังกายโดยสามารถออกกำลังกายได้ทุกสัดส่วนพร้อมทั้งฝึกความอดทน การทรงตัวและความยืดหยุ่นของร่างกาย ซึ่งกายบริหาร ก็จะมีหลากหลายท่าให้เลือกตามความเหมาะสม เช่น เหยียดน่อง เขย่งปลายเท้า ย่อเข่า โยกลำตัว เป็นต้น

การรำมวยจีน

รำมวยจีนเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงอายุ ที่ให้ทั้งความอดทนความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ทั้งด้านทางกายและจิตใจ นอกจากนี้การรำมวยจีน ยังช่วยเพิ่มโอกาสสร้างสังคมให้กับเหล่าผู้สูงอายุ ที่มีความชอบในด้านการดูแลตัวเองอีกด้วย

การเล่นโยคะ

โยคะเป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้ที่ปฏิบัติมีสุขภาวะที่ดีขึ้น ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ แต่การออกกำลังกายด้วยโยคะจะต้องมีการฝึกฝนอย่างถูกวิธีจึงจะได้ผลดีเเละไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บนะคะ

ทั้งนี้ผู้สูงอายุ ควรออกกำลังกายตามความเหมาะสมของตนเอง ไม่หักโหมจนเกินไปและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวันเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่เเข็งเเรงสมบูรณ์นะคะ

บ้านลลิสา (Nursing Home) สาขาเมืองเชียงใหม่เราให้คุณมากกว่าการพักฟื้น ด้วยการมอบความห่วงใยสร้างความอุ่นใจ เเละดูเเลคุณเหมือนกับสมาชิกภายในครอบครัว

เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ของครอบครัวที่ท่านรักบอกรักผู้สูงวัย เชื่อใจให้ บ้านลลิสา Nursing Home สาขาเมืองเชียงใหม่ ดูแล

ทำความรู้จัก ภาวะกลืนลำบากภัยเงียบของวัยสูงอายุ
ภาวะการกลืนลำบาก เป็นภาวะที่เกิดความผิดปกติในการกลืนอาหาร เกิดขึ้นภายในช่องปาก คอหอยหรือหลอดอาหารและกลไกของระบบประสาทที่ควบคุมการกลืนส่งผลให้ความสามารถในการกลืนของผู้สูงอายุลดลง

อาการที่สังเกตได้
รู้สึกเจ็บขณะกลืน ไม่สามารถกลืนได้เหมือนมีอาหารติดค้างในลำคอเสียงแหบเครือหลังการกลืนไอหรือสำลักเวลากลืนอาหารอาหารไหลย้อนกลับออกทางปากน้ำหนักลดลงผิดปกติเคี้ยวอาหารลำบาก

การฟื้นฟูดูแล
รักษาความสะอาดในช่องปากออกกำลังกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนเช่น กล้ามเนื้อปาก ลิ้น กล้ามเนื้อยกกล่องเสียงรวมทั้งฝึกการหายใจ และไออย่างถูกวิธีปรับลักษณะของอาหารหรือน้ำให้เหมาะสมจัดท่าทางในการกลืนให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย

การป้องกันภาวะกลืนลำบาก
รับประทานอาหารให้ช้าลง และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้นรับประทานอาหารคำเล็กลง หรือรับประทานบ่อยแต่ปริมาณน้อยลงในแต่ละมื้อหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่เพิ่มความเสี่ยง