อาหารโภชนาการครบถ้วน เพื่อสุขภาพที่ดีของคนที่คุณรัก

ในกระบวนการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้น อาหาร คือหัวใจสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ฟื้นฟูร่างกาย และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยเฉพาะในการดูแลผู้สูงอายุ ที่บ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการมุ่งเน้นการดูแลแบบองค์รวมและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งด้านสุขภาพกาย ใจ และโภชนาการที่ครบถ้วน เราจะพาคุณไปรู้จักแนวทางการจัดอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุอย่างละเอียด พร้อมเหตุผลว่าทำไมการใส่ใจในอาหารเพราะเป็นสิ่งที่ดีและควรทำจึงสำคัญมาก

  • เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญจะทำงานช้าลง ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง จำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีสารอาหารแน่นแต่ไม่หนัก
  • อาหารที่ดีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และชะลอโรคเรื้อรัง

1.3 การป้องกันภาวะขาดสารอาหาร

  • ผู้สูงอายุมักเบื่ออาหาร ทำให้เสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินจำเป็น

2.1 การเลือกวัตถุดิบสดใหม่

  • บ้านลลิสาเลือกใช้วัตถุดิบที่สด ใหม่ และสะอาด จากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • คัดสรรผักปลอดสารพิษ และเนื้อสัตว์คุณภาพดีทุกวัน

2.2 ปรุงอาหารตามหลักโภชนาการ

  • ทุกเมนูปรุงโดยเชฟที่ผ่านการอบรมด้านอาหารผู้สูงอายุ
  • ควบคุมปริมาณโซเดียม น้ำตาล และไขมันให้อยู่ในระดับเหมาะสม

2.3 เน้นคุณค่าทางอาหารในทุกมื้อ

  • มีสัดส่วนครบถ้วนของหมู่สารอาหารทั้ง 5 หมู่
  • ใช้เทคนิคการทำอาหารที่คงคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ต้ม นึ่ง อบ

2.4 ความใส่ใจในกระบวนการเตรียมอาหาร

  • ห้องครัวได้รับมาตรฐานความสะอาด
  • พนักงานครัวผ่านการอบรมเรื่องความปลอดภัยอาหาร

3.1 เมนูอาหารเช้า

  • ข้าวต้มปลากะพง + ไข่ตุ๋น + นมถั่วเหลืองร้อน
  • ข้าวกล้องผัดฟักทอง + ผลไม้สด

3.2 เมนูอาหารกลางวัน

  • แกงเลียงกุ้งสด + ไข่เจียวดอกไม้ + ข้าวกล้อง
  • ปลาทอดสมุนไพร + ซุปผักโขม + ข้าวไรซ์เบอร์รี่

3.3 เมนูอาหารเย็น

  • โจ๊กไก่ใส่ฟักทอง + ต้มจับฉ่าย
  • เต้าหู้ทรงเครื่อง + น้ำผลไม้คั้นสด (ไม่เติมน้ำตาล)

3.4 เมนูของว่างบำรุงสุขภาพ

  • กล้วยน้ำว้าหอม + น้ำขิงอุ่น
  • ขนมปังโฮลวีททาอะโวคาโด + ชาเขียวร้อน

4.1 นักโภชนาการประจำศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเชียงใหม่

  • ออกแบบเมนูเฉพาะบุคคลตามโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือภาวะไตเสื่อม
  • ปรับเมนูให้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการเคี้ยวหรือกลืน

4.2 ความร่วมมือของทีมพยาบาลและครัว

  • ตรวจสอบการตอบสนองของร่างกายผู้สูงอายุหลังมื้ออาหาร
  • ประเมินสุขภาพช่องปากและพฤติกรรมการกินเพื่อปรับแผนโภชนาการ

4.3 การติดตามและประเมินผล

  • น้ำหนักและระดับสารอาหารในร่างกายถูกติดตามทุกเดือน
  • ปรับเมนูให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพผู้สูงอายุ

5.1 บริการดูแลโภชนาการเฉพาะบุคคล

  • ทุกคนได้รับแผนอาหารที่ปรับเฉพาะตามอายุ โรค และพฤติกรรม

5.2 สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

  • ห้องรับประทานอาหารสะอาด ปลอดโปร่ง
  • บริการเสิร์ฟถึงห้องพักในกรณีจำเป็น

5.3 บริการเสริมเพื่อสุขภาพ

  • การให้คำปรึกษาเรื่องอาหารกับครอบครัวผู้ดูแล
  • การจัดอบรมเมนูง่าย ๆ ให้ญาตินำไปดูแลต่อที่บ้าน

อาหารคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและใจให้กับผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน ที่บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุง การเสิร์ฟ ไปจนถึงการประเมินผลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกมื้ออาหาร คือพลังแห่งการฟื้นฟูที่มีความแข็งแรงในทุก ๆ วัน

6 โรคหน้าฝน ที่ผู้สูงอายุ ต้องระวังเป็นพิเศษ

ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่มีความชื้นสูง อากาศเย็น และมีโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้ผู้สูงอายุซึ่งมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมากกว่าคนทั่วไป ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเฝ้าระวังโรคที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 6 โรคที่ผู้สูงอายุต้องระวังเป็นพิเศษ พร้อมแนวทางการป้องกันเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในทุกวันของฤดูฝน

1. โรคจากไวรัส – ภัยเงียบในฤดูฝน

1.1 สาเหตุและการติดต่อ

ไวรัสที่พบบ่อยในฤดูฝน เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัส RSV สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม รวมถึงการสัมผัสวัตถุปนเปื้อน

1.2 อาการที่ควรสังเกต

  • ไข้สูง หนาวสั่น
  • ไอ จาม น้ำมูกไหล
  • เหนื่อยง่าย หายใจหอบ (โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว)

1.3 วิธีป้องกัน

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
  • หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และสวมหน้ากากอนามัย
  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์

2. โรคคอติดเชื้อ – อาการที่ดูเหมือนไข้ธรรมดาแต่รุนแรง
2.1 ทำไมผู้สูงอายุต้องระวัง?

โรคคอติดเชื้อหรือคออักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส มักเกิดในช่วงที่อากาศชื้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานลดลง

2.2 อาการหลัก

  • เจ็บคอ กลืนลำบาก
  • ไข้ ปวดเมื่อย
  • ต่อมน้ำเหลืองบวมใต้คาง

2.3 แนวทางป้องกัน

  • หมั่นดื่มน้ำอุ่น และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเย็นจัด
  • รักษาความสะอาดของช่องปาก

3. โรคท้องเสีย – จากอาหารปนเปื้อนน้ำฝน

3.1 ต้นเหตุที่พบได้ในหน้าฝน

ในช่วงฝนตกบ่อย มักเกิดน้ำขัง ทำให้อาหารหรือแหล่งน้ำปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น เชื้ออีโคไล หรือซาลโมเนลลา

3.2 อาการทั่วไป

  • ปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน
  • อ่อนเพลีย และเสี่ยงภาวะขาดน้ำ

3.3 วิธีดูแลและป้องกัน

  • รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ และหลีกเลี่ยงอาหารแช่เย็นนานเกินไป
  • ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุก
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน

4. โรคผิวหนังอักเสบ – เพราะความอับชื้น

4.1 ความชื้นทำให้ผิวติดเชื้อ

ฤดูฝนทำให้ผิวหนังของผู้สูงอายุเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะบริเวณข้อพับ หรือจุดสัมผัสที่มีเหงื่อออกบ่อย

4.2 อาการที่พบได้บ่อย

  • คัน ผื่นแดง บวม หรือมีตุ่มน้ำใส
  • ผิวหนังเปื่อยหรือแตกเป็นแผล

4.3 การดูแลผิวให้ปลอดภัย

  • เช็ดตัวให้แห้งทันทีหลังเปียกฝน
  • สวมเสื้อผ้าที่โปร่ง ระบายอากาศดี
  • ใช้ครีมบำรุงหรือยาทาภายใต้คำแนะนำของแพทย์

5. โรคฉี่หนู – อันตรายจากแหล่งน้ำสกปรก

5.1 สาเหตุจากน้ำขังและสัตว์พาหะ

โรคฉี่หนูมาจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ โดยเฉพาะหนู เมื่อสัมผัสแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนก็มีโอกาสติดเชื้อ

5.2 อาการในผู้สูงอายุ

  • ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัว
  • ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
  • ตาแดง หรือมีภาวะไตผิดปกติ

5.3 การป้องกันที่สำคัญ

  • หลีกเลี่ยงการเดินในน้ำขัง
  • สวมรองเท้าบู๊ตเมื่อต้องเดินลุยน้ำ
  • ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธีหากสัมผัสน้ำสกปรก

6. ไข้เลือดออก – ระวังยุงลายในฤดูฝน

6.1 ศัตรูตัวร้ายของผู้สูงอายุ

ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก ซึ่งมักวางไข่ในน้ำขังที่พบได้ทั่วไปในหน้าฝน

6.2 สัญญาณเตือน

  • ไข้สูงลอยไม่ลด ปวดหัวมาก
  • ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ
  • มีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง

6.3 ป้องกันยุงลายอย่างไร?

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น จานรองกระถาง ตุ่มน้ำ
  • ทายากันยุง หรือติดมุ้งลวด
  • หากพบอาการผิดปกติรีบพบแพทย์ทันที

ฤดูฝนเป็นช่วงที่ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการติดโรคต่าง ๆ มากกว่าปกติ ทั้งจากสภาพอากาศ แหล่งน้ำ และการติดเชื้อในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการดูแลจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและสภาพแวดล้อม ช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกฤดู

อัลไซเมอร์ไม่ใช่แค่หลงลืม ความรู้และการดูแลผู้สูงอายุอย่างเข้าใจ

เพราะทุกความใส่ใจ คือพลังบวกที่ช่วยให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้ความทรงจำจะเลือนหาย แต่ความรักจะยังคงชัดเจนเสมอ

ระวังกลางแจ้งแดดแรง ผู้สูงอายุเสี่ยงขาดน้ำ วิธีดูแลให้ปลอดภัยในหน้าร้อน

การดูแลอย่างใกล้ชิด ฟื้นฟูครบวงจร ทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ

เมื่อผู้สูงวัยในครอบครัวเริ่มต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น การเลือกวิธี ดูแลผู้สูงอายุ อย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันมีหลายทางเลือก เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ, เนอร์สซิ่งโฮม หรือการ ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน แต่สิ่งสำคัญคือการดูแลแบบ “ใกล้ชิดและครบวงจร” ที่ไม่เพียงดูแลร่างกาย แต่ครอบคลุมถึงจิตใจ สังคม และการฟื้นฟูสมรรถภาพ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางดูแลที่ดีที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก

1. ทำไมการดูแลผู้สูงอายุต้อง “ใกล้ชิดและครบวงจร”

– เนื่องจากทางครอบครัวอาจไม่มีเวลามากพอ

2. องค์ประกอบของการดูแลผู้สูงอายุแบบฟื้นฟูครบวงจรดูแลด้านร่างกายด้วยกิจกรรมและโภชนาการ

2.1 ดูแลจิตใจและส่งเสริมเหมือนเข้าสังคม

การดูแลจิตใจมีส่วนช่วยลดภาวะซึมเศร้าและความเครียดในผู้สูงอายุได้อย่างมีนัยสำคัญ

2.2 ฟื้นฟูรายบุคคลด้วยแผนเฉพาะ

3. ทางเลือกยอดนิยมในการดูแลผู้สูงอายุ

3.1 การดูแลที่บ้าน: เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเวลา

3.2 ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร

4. ประโยชน์ของการดูแลแบบใกล้ชิดและครบวงจร

4.1 ลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเรื้อรัง

4.2 เพิ่มคุณภาพชีวิตและความสุขในแต่ละวัน

5. คำแนะนำในการเลือกบริการดูแลผู้สูงอายุ

การเลือกวิธี ดูแลผู้สูงอายุ ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนที่คุณรัก การดูแลแบบใกล้ชิดและฟื้นฟูครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือในศูนย์ดูแลเฉพาะทาง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสุขภาพทั้งกายและใจ หากคุณกำลังมองหาบริการที่เหมาะสม ลองเริ่มต้นจากการศึกษาตัวเลือกให้ครอบคลุม และตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อให้ช่วงบั้นปลายชีวิตของคนที่คุณรัก เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุขอย่างแท้จริง

สบายกาย สบายใจ จากการดูแลใกล้ชิดจากทีมแพทย์ กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

การดูแลผู้สูงอายุคือความใส่ใจในทุกรายละเอียดเมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุย่อมเปลี่ยนแปลง การมีสถานที่ที่สามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด โดยทีมแพทย์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายครอบครัวไว้วางใจ “ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ” ที่ให้การดูแลแบบองค์รวม จึงเป็นคำตอบของคุณภาพชีวิตที่ทั้งผู้สูงอายุและครอบครัวที่ต้องการ การดูแลอย่างใกล้ชิด


#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ดูแลผู้สูงอายุ #นักบริบาล24ชม #แพทย์ตรวจเยี่ยม #อาหารผู้สูงอายุ #กายภาพบำบัด
#บ้านลลิสา #NursingHomeเชียงใหม่ #ออกกำลังกายผู้สูงอายุ #ดูแลด้วยใจ #สุขภาพดีทุกวัย

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด
📞 โทร. 053-855008 , 088-2591895
💬 Line : https://lin.ee/cJwaF2g หรือ @baanlalisacm (มี @)
📍 แผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

การดูแล สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบ้านลลิสา มอบความอุ่นใจในทุกขั้นตอนของการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง พร้อมทีมแพทย์ พยาบาล นักกายภาพ และกิจกรรมบำบัดอย่างครบวงจร

วิธีป้องกันโรคสมองเสื่อม (Dementia) และอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความเสื่อมของร่างกายและสมองก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะโรค “สมองเสื่อม” และ “อัลไซเมอร์” ที่พบมากในผู้สูงอายุ เป็นโรคที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรงทั้งต่อผู้ป่วยและผู้ดูแล การเข้าใจโรค และการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม


1.1 โรคสมองเสื่อม (Dementia) คืออะไร?

โรคสมองเสื่อม คือภาวะที่ความสามารถในการคิด ความจำ การตัดสินใจ และการใช้เหตุผลลดลง ซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยทั่วไปไม่ได้เป็นโรคเฉพาะโรคใดโรคหนึ่ง แต่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พาร์กินสัน เส้นเลือดในสมองตีบ ฯลฯ

1.2 โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) คืออะไร?

อัลไซเมอร์เป็นชนิดหนึ่งของโรคสมองเสื่อมที่พบได้มากที่สุด เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมอง ทำให้เซลล์สมองเสื่อมลงอย่างช้าๆ จนนำไปสู่การสูญเสียความจำ และการควบคุมตนเอง

2.1 ความจำระยะสั้นลดลง

ลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ทำให้เกิดการถามคำถามซ้ำ ๆ หรือจำชื่อบุคคลหรือสถานที่ที่คุ้นเคยไม่ได้

2.2 มีปัญหาในการสื่อสาร

หาคำพูดไม่เจอ พูดซ้ำๆ หรือจัดลำดับคำผิด ทำให้มีปัญหาด้านการพูดการสื่อสาร

2.3 สูญเสียความสามารถในการวางแผนหรือแก้ปัญหา

ไม่สามารถจัดการงานง่าย ๆ เช่น จ่ายบิล ทำอาหาร หรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าง่าย ๆ ผิดพลาดเกิดการเสียหายได้

2.4 เปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และบุคลิกภาพ

อาจกลายเป็นคนหวาดระแวง ซึมเศร้า หรือขี้โมโหโดยไม่มีเหตุผล เป็นการหาเหตุผลที่เป็นอยู่ไม่เจอ

3.1 อายุ

ความเสี่ยงเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์จะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะหลังอายุ 65 ปี

3.2 พันธุกรรม

หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ จะมีโอกาสในการเกิดโรคนี้สูงขึ้น

3.3 โรคเรื้อรัง

โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจล้วนเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

3.4 พฤติกรรมการใช้ชีวิต

การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ขาดการออกกำลังกาย และนอนหลับไม่เพียงพอ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

4.1 กระตุ้นสมองอย่างสม่ำเสมอ

ทำกิจกรรมที่ใช้ความคิด เช่น อ่านหนังสือ เล่นหมากรุก ต่อจิ๊กซอว์ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง

4.2 รักษาสุขภาพร่างกาย

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือรำไทเก๊ก เป็นให้บ่อยอย่างเป็นประจำมากขึ้น

4.3 รับประทานอาหารสมดุล

กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช และปลาทะเล เพื่อให้สารอาหารที่รับประทานเข้าไปบำรุงสมอง ให้มากขึ้น

4.4 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันช่วยให้สมองฟื้นฟูและลดการเสื่อม

4.5 หลีกเลี่ยงความเครียด

ฝึกสมาธิ ทำโยคะ หรือฟังเพลงเพื่อผ่อนคลายจิตใจ จะช่วยลดความเครียดสะสมมากขึ้น

4.6 เข้าสังคมและมีกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

การพบปะพูดคุยกับผู้อื่นช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและส่งผลดีต่อการใช้สมองที่ดีขึ้น

4.7 ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ

การตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำจะช่วยคัดกรองความเสี่ยง และสามารถป้องกันโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้

5.1 การจัดกิจกรรมกระตุ้นสมอง

ศูนย์ดูแลจะมีโปรแกรมกิจกรรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะให้เหมาะแก่ผู้สูงอายุทุกท่าน เช่น เกมความจำ ดนตรีบำบัด หรือกิจกรรมศิลปะ

5.2 การดูแลโภชนาการ

มีเจ้าหน้าที่กำหนดด้านอาหารและคอยดูแลเรื่องอาหารให้ครบถ้วนให้เหมาะกับผู้สูงอายุทุกท่าน

5.3 การส่งเสริมการออกกำลังกาย

มีเจ้าหน้าที่คอยฝึกหรือเจ้าหน้าที่ดูแลการเคลื่อนไหวเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพทางกายแต่ผู้สูงอายุทุกท่าน

5.4 การดูแลสุขภาพจิต

ผู้สูงอายุจะได้รับการพูดคุย ปรึกษา และส่งเสริมสุขภาพจิตกับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ

5.5 การเฝ้าระวังและคัดกรองภาวะสมองเสื่อม

พยาบาลจะติดตามอาการและสังเกตความผิดปกติทางพฤติกรรมของผู้สูงอายุทุกท่านอย่างใกล้ชิด

บ้านลลิสา Nursing Home – ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่คุณวางใจได้

บ้านลลิสา Nursing Home คือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีทีมงานมืออาชีพดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมอง พร้อมด้วยกิจกรรมหลากหลายที่ช่วยชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

โรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์สามารถป้องกันได้หากมีการดูแลอย่างเหมาะสม ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวัน การเลือกอาหาร การออกกำลังกาย จนถึงการได้รับการดูแลจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีมาตรฐาน บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจและพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของผู้สูงวัยได้ดียิ่งขึ้น


#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #บ้านลลิสาเชียงใหม่ #โรคสมองเสื่อม #อัลไซเมอร์ #ผู้สูงอายุสุขภาพดี

Heat Stroke ภัยร้ายหน้าร้อน ป้องกัน และรับมืออย่างไรให้ปลอดภัย?

ฮีทสโตรก (Heat Stroke) คืออะไร?

1. อาการของฮีทสโตรกที่ควรเฝ้าระวัง

1.1 ผิวหนังแห้ง แดง ร้อน และไม่มีเหงื่อ แม้จะอยู่ในอากาศร้อนจัด แต่ผู้ที่เป็นฮีทสโตรกจะไม่มีเหงื่อออก เนื่องจากระบบขับเหงื่อไม่ทำงานตามปกติ

1.2 หายใจเร็ว ใจเต้นแรง เวียนศีรษะ สับสน สัญญาณเหล่านี้แสดงว่าร่างกายกำลังประสบภาวะเครียดอย่างรุนแรง และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด่วน


2. กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

2.1 ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุมีระบบการควบคุมอุณหภูมิร่างกายที่อ่อนแอลง รวมถึงอาจมีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้เกิดฮีทสโตรกได้ง่ายขึ้น

2.2 เด็กเล็ก เด็กยังไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ดี ทำให้เสี่ยงเกิดฮีทสโตรกได้ง่าย โดยเฉพาะหากอยู่ในรถที่ปิดทึบ

2.3 ผู้ที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแดด การใช้แรงมากในสภาพอากาศร้อนจัด จะเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว


3. วิธีป้องกันฮีทสโตรกเบื้องต้นที่ทำได้ง่าย


4. การทำงานของบุคลากรบ้านลลิสา Nursing Home เพื่อป้องกันฮีทสโตรก

4.1 การประเมินสุขภาพรายวัน พยาบาลจะตรวจวัดอุณหภูมิ ความดัน และสัญญาณชีพของผู้สูงอายุทุกวัน หากพบความผิดปกติจะรายงานแพทย์ทันที

4.2 การวางแผนกิจกรรมให้เหมาะสม นักกิจกรรมบำบัดจะวางแผนกิจกรรมที่เหมาะกับสภาพอากาศ เช่น เลี่ยงกิจกรรมช่วงแดดจ้า และจัดกิจกรรมในห้องแอร์หรือร่มเงา

4.3 ระบบแจ้งเตือนกรณีฉุกเฉิน ภายในศูนย์มีระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินในแต่ละห้อง หากผู้สูงอายุรู้สึกไม่สบายหรือเป็นลม สามารถกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่ได้ทันที

4.4 การดูแลโภชนาการโดยนักกำหนดอาหาร มีการจัดเมนูอาหารพิเศษที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย เช่น เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำผลไม้สด และอาหารย่อยง่าย ลดโซเดียม

4.5 การอบรมเจ้าหน้าที่ประจำฤดูร้อน เจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการอบรมด้านการดูแลผู้สูงอายุในช่วงอากาศร้อน เพื่อให้สามารถระบุอาการและรับมือได้ทัน


ข้อควรระวังเพิ่มเติมในฤดูร้อน


บ้านลลิสา Nursing Home – ความห่วงใยที่จับต้องได้ ความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุในทุกฤดูกาล

เราคือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในจังหวัดเชียงใหม่ที่ให้บริการด้วยมาตรฐานระดับมืออาชีพ เน้นความปลอดภัย ความสะอาด และบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน


ติดต่อเรา

บ้านลลิสา Nursing Home – พื้นที่แห่งความห่วงใยที่คุณวางใจได้

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่คุณวางใจได้ บ้านลลิสา Nursing Home

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ร่างกายและจิตใจต้องการการดูแลอย่างละเอียดและอบอุ่น “บ้านลลิสา Nursing Home” จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นคำตอบสำหรับครอบครัวที่มองหาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และพร้อมดูแลเหมือนคนในครอบครัว


1. ทำไมต้องเลือกบ้านลลิสา Nursing Home?

1.1 ดูแลโดยทีมบุคลากรทางการแพทย์และนักบริบาลมืออาชีพ

เราเข้าใจถึงความต้องการเฉพาะของผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้น บ้านลลิสาจึงจัดให้มีทีมพยาบาล นักกายภาพ และผู้ดูแลที่มีประสบการณ์สูง พร้อมให้บริการอย่างอบอุ่นและปลอดภัย

1.2 ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงอย่างใกล้ชิด

ที่บ้านลลิสา เราเน้นการดูแลรายบุคคล ด้วยการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและตอบสนองต่อความต้องการทันที

1.3 กิจกรรมกายภาพบำบัดส่งเสริมสุขภาพ

ผู้สูงอายุที่เข้าพักจะได้รับกิจกรรมกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยนักกายภาพมืออาชีพ ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย เพิ่มความคล่องตัว ลดอาการเจ็บปวด และป้องกันโรคเรื้อรัง

1.4 โภชนาการครบถ้วน ถูกสุขลักษณะ

อาหารที่บ้านลลิสาเน้นโภชนาการครบ 5 หมู่ ปรุงใหม่ สะอาด พร้อมเมนูเฉพาะผู้ป่วยและผู้สูงอายุโดยนักโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในทุกมื้อ

1.5 ห้องพักมาตรฐาน ปลอดโปร่ง น่าอยู่

ห้องพักที่บ้านลลิสาได้รับการออกแบบให้มีอากาศถ่ายเทดี มีแสงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเงียบสงบ เป็นส่วนตัว พร้อมเตียงพิเศษและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน


2. บริการที่ครบวงจร เหนือความคาดหมาย

2.1 บริการดูแลผู้ป่วยระยะพักฟื้น

หลังการผ่าตัดหรือการรักษาโรครุนแรง ผู้ป่วยต้องการการฟื้นตัวอย่างใกล้ชิด บ้านลลิสาให้บริการดูแลการพักฟื้นอย่างครบวงจร ด้วยแผนการดูแลเฉพาะบุคคล

2.2 ส่งเสริมสุขภาพจิตและกิจกรรมทางสังคม

นอกจากการดูแลร่างกายแล้ว เราให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต กิจกรรมนันทนาการ เช่น ดนตรี ศิลปะ การพูดคุยกลุ่ม สร้างกำลังใจและลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ

2.3 การสื่อสารและอัปเดตข้อมูลกับครอบครัว

เราเชื่อในการเปิดเผยและโปร่งใส ครอบครัวสามารถติดตามอาการและกิจกรรมของผู้สูงอายุได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมรับคำปรึกษาและรายงานสุขภาพประจำสัปดาห์


3. สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและปลอดภัย

3.1 ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด

บ้านลลิสาออกแบบระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ มีระบบป้องกันอุบัติเหตุ กล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่เวรยามตลอด 24 ชม.

3.2 การออกแบบที่เน้นความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ

ทุกพื้นที่ของบ้านลลิสาออกแบบตามหลัก Universal Design เช่น ทางลาด ห้องน้ำกันลื่น ราวจับเดิน ทุกจุดช่วยให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัย


4. เสียงจากครอบครัวและผู้เข้าพักจริง

“คุณแม่ของฉันมีความสุขมากหลังมาอยู่บ้านลลิสา พนักงานใจดีและดูแลเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆ” – คุณศิริพร

“หลังผ่าตัดหัวเข่า ผมเลือกมาพักฟื้นที่นี่ เพราะมีนักกายภาพมืออาชีพ ฟื้นตัวเร็วเกินคาด” – คุณสมชาย


สรุป: บ้านลลิสา Nursing Home คือคำตอบของการดูแลผู้สูงอายุอย่างแท้จริง

บ้านลลิสาคือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้นที่พร้อมให้บริการอย่างครบถ้วนโดยทีมแพทย์ พยาบาล และผู้ดูแลมืออาชีพในบรรยากาศอบอุ่น ปลอดภัย และใส่ใจทุกความต้องการของผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกวันของท่านเต็มไปด้วยรอยยิ้มและคุณภาพชีวิตที่ดี