ฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke อย่างถูกวิธี เริ่มต้นได้วันนี้

หลังจากเกิด Stroke — ทุกการฟื้นฟู คือโอกาสสำคัญ”

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ผลกระทบกลับอยู่กับผู้ป่วยไปตลอดชีวิต หากไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกวิธีในระยะเวลาที่เหมาะสม อาจทำให้สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว การพูด การกลืน หรือแม้กระทั่งความจำและการรับรู้

“บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่” เข้าใจดีว่า การฟื้นฟูหลังภาวะ Stroke ไม่ใช่แค่การรักษา แต่คือการคืนคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย เราจึงจัดบริการดูแลแบบครบวงจร ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ทั้งแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และผู้ดูแลผู้ป่วยมืออาชีพ

พร้อมบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลเทพปัญญา เดินทางสะดวก รองรับกรณีฉุกเฉินได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่ต้องการพักฟื้นอย่างมั่นใจ

ทำความเข้าใจ “Stroke” โรคหลอดเลือดสมอง ที่ต้องรีบฟื้นฟู

Stroke คืออะไร?

Stroke หรือ “โรคหลอดเลือดสมอง” คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน ส่งผลให้เซลล์สมองบางส่วนตาย ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหว การพูด หรือการรับรู้ในบางด้าน

โรคนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  • Stroke ชนิดขาดเลือด (Ischemic Stroke) — เกิดจากลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมอง
  • Stroke ชนิดเลือดออก (Hemorrhagic Stroke) — เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดรั่วออกมากดทับเนื้อสมอง

ไม่ว่าจะเป็นชนิดใด การฟื้นฟูอย่างถูกต้องและต่อเนื่องหลังเกิด Stroke คือหัวใจสำคัญของการกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ

สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง

เราสามารถจำสัญญาณเตือนของโรคนี้ได้ง่าย ๆ ด้วยหลัก F.A.S.T.

ตัวอักษรความหมายสัญญาณเตือน
F – Faceใบหน้าเบี้ยวยิ้มแล้วมุมปากข้างหนึ่งตก
A – Armแขนอ่อนแรงยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไม่เท่ากัน
S – Speechพูดไม่ชัดพูดไม่รู้เรื่อง หรือออกเสียงผิดปกติ
T – Timeเวลาหากพบอาการเหล่านี้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที

“เวลา” คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะทุกนาทีที่สมองขาดเลือด เซลล์สมองจำนวนมากจะตายลงอย่างถาวร

H2: หลังเกิด Stroke ทำไม “การฟื้นฟู” ถึงสำคัญมาก

หลังผ่านพ้นระยะวิกฤตในโรงพยาบาลแล้ว ผู้ป่วย Stroke มักจะต้องเผชิญกับภาวะต่าง ๆ เช่น

  • แขนขาอ่อนแรง เดินไม่ได้
  • กลืนอาหารลำบาก
  • พูดไม่ชัด หรือพูดไม่ได้
  • สูญเสียความจำ หรือมีอารมณ์แปรปรวน

การฟื้นฟูจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการ “คืนความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน” ให้กลับมาได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนแรกหลังเกิดอาการ ซึ่งเป็น “ช่วงทอง” ของการฟื้นฟูสมรรถภาพทางสมองและร่างกาย

โปรแกรมฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ที่บ้านลลิสา — ครบ จบ ในที่เดียว

ที่ “บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่” เราออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูเฉพาะสำหรับผู้ป่วย Stroke โดยใช้หลักการทางการแพทย์ควบคู่กับการดูแลแบบอบอุ่น เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวทั้งกายและใจ

1. กายภาพบำบัด (Physical Therapy) — ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว แขน-ขา

การกายภาพบำบัดเป็นหัวใจหลักของการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke โดยทีม นักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ จะประเมินความสามารถของผู้ป่วยแต่ละราย และวางแผนการฝึกอย่างเหมาะสม เช่น

  • การกระตุ้นกล้ามเนื้ออ่อนแรง ด้วยเทคนิค Passive & Active Exercise
  • ฝึกการทรงตัว และการนั่ง ยืน เดิน
  • ฝึกการใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น Walker, ไม้เท้า
  • การยืดเหยียดเพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ (Spasticity Reduction)

เป้าหมายคือให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ปลอดภัย และมั่นใจในทุกก้าว

2. กิจกรรมฝึกสมอง (Cognitive Rehabilitation) — ฟื้นฟูความจำและการสื่อสาร

ผู้ป่วย Stroke มักมีปัญหาด้านสมอง เช่น ความจำสั้น สมาธิสั้น หรือพูดไม่ชัด “บ้านลลิสา” จึงมีโปรแกรม กิจกรรมฝึกสมอง (Brain Training) ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่บาดเจ็บ เช่น

  • เกมฝึกความจำและการคิดวิเคราะห์
  • การฝึกอ่าน เขียน พูด
  • การฝึกการสื่อสารกับผู้อื่นอย่างเป็นขั้นตอน
  • การจำลองสถานการณ์ชีวิตจริง เช่น การเลือกเสื้อผ้า หรือการจัดโต๊ะอาหาร

กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผู้ป่วย กลับมาสื่อสารได้ดีขึ้นและคิดได้อย่างมีระบบมากขึ้น

3. ดูแลสุขภาพจิตใจ (Mental Health Care) — คืนความมั่นใจให้ผู้ป่วย

นอกจากร่างกายแล้ว “ใจ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ผู้ป่วย Stroke หลายคนรู้สึกซึมเศร้า สูญเสียความมั่นใจ หรือไม่อยากเข้าสังคม

บ้านลลิสาให้ความสำคัญกับการ ดูแลสุขภาพจิตใจแบบองค์รวม โดยนักจิตวิทยาและทีมบริบาลจะร่วมกันสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย และให้กำลังใจผู้ป่วยอยู่เสมอ ผ่านกิจกรรม เช่น

  • ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
  • ศิลปะบำบัด (Art Therapy)
  • กิจกรรมกลุ่มกับผู้สูงวัยท่านอื่น ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์

เราพบว่าผู้ป่วยที่มี “ใจพร้อม” จะฟื้นตัวเร็วกว่าเสมอ

4. บรรยากาศอบอุ่น เหมาะสำหรับผู้สูงวัยและผู้ป่วยพักฟื้น

บ้านลลิสาออกแบบสถานที่ให้เหมาะกับผู้สูงวัยทุกคน
มีทางเดินกว้าง ปลอดภัย ไม่มีขั้นบันไดสูง มีราวจับในทุกจุด ห้องพักสะอาด อากาศถ่ายเทดี และมีพื้นที่สีเขียวให้ผ่อนคลาย

ผู้ป่วยและครอบครัวจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริง ๆ เพราะเราดูแลด้วยหัวใจ

ทำเลสะดวก ปลอดภัย ใกล้โรงพยาบาลเทพปัญญา

บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในย่านเงียบสงบ แต่เดินทางสะดวก ห่างจาก โรงพยาบาลเทพปัญญาเพียงไม่กี่นาทีสามารถรองรับกรณีฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว

ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

เรามีทีมดูแลแบบสหวิชาชีพ (Multidisciplinary Team) ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

  • แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
  • นักกายภาพบำบัด
  • นักกิจกรรมบำบัด
  • นักจิตวิทยา
  • พยาบาลและผู้บริบาลวิชาชีพ

ทุกคนผ่านการอบรมเฉพาะด้านผู้ป่วย Stroke และมีประสบการณ์ตรงในการดูแลผู้สูงวัย

โปรแกรมดูแลแบบครบวงจรที่บ้านลลิสา

1. โปรแกรมระยะสั้น (Short-Term Rehabilitation)

เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ต้องการพักฟื้นร่างกายให้แข็งแรงก่อนกลับบ้าน

2. โปรแกรมระยะยาว (Long-Term Care)

สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง หรือมีภาวะหลอดเลือดสมองซ้ำ

3. โปรแกรมดูแลรายวัน (Day Care)

เปิดรับผู้ป่วยมารับบริการฟื้นฟูแบบรายวัน เช่น กายภาพ ฝึกสมอง หรือกิจกรรมกลุ่ม

รีวิวจากครอบครัวผู้ป่วยจริง

“คุณแม่เป็นอัมพฤกษ์มาครึ่งปี เดินไม่ได้เลย หลังจากมาอยู่บ้านลลิสา 3 เดือน ตอนนี้เริ่มยืนและเดินได้ด้วยตัวเอง ขอบคุณทีมกายภาพมากค่ะ”
— คุณวารี (ลูกสาวผู้ป่วย)

“บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ดูแลดีทุกวัน คุณพ่ออารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยครับ”
— คุณวิทยา (ญาติผู้ป่วย)

สรุป ฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke อย่างถูกวิธี เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้

โรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต หากแต่เป็น “จุดเริ่มต้นของการฟื้นคืนคุณภาพชีวิตใหม่”
ที่บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ เราพร้อมดูแลคุณและคนที่คุณรักด้วยหัวใจ

ด้วยโปรแกรมฟื้นฟูครบวงจร ทีมแพทย์และนักกายภาพผู้เชี่ยวชาญ
ในบรรยากาศอบอุ่น ปลอดภัย และเป็นมิตรกับผู้สูงวัย

ติดต่อเรา

บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ (ใกล้โรงพยาบาลเทพปัญญา)
📞 โทร. 053-855008 , 088-2591895
💬 Line: @baanlalisacm
เปิดให้เยี่ยมชมสถานที่ได้ทุกวัน

5 วิธีดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกต้อง เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีของคนที่คุณรัก

วิธีที่ 1: ควรเปลี่ยนท่านอนทุก 2–3 ชั่วโมง

1.1 ทำไมต้องเปลี่ยนท่านอนบ่อย?

1.2 วิธีเปลี่ยนท่านอนที่ถูกต้อง

1.3 เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญบ้านลลิสาเชียงใหม่

วิธีที่ 2: ปรับเตียงเอนประมาณ 45 องศา ขณะทานอาหาร
2.1 เหตุผลที่ต้องปรับเตียง

2.2 คำแนะนำเพิ่มเติม

2.3 การดูแลโภชนาการจากบ้านลลิสา

วิธีที่ 3: เช็ดตัว อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นประจำ

3.1 ทำไมความสะอาดถึงสำคัญ?

3.2 วิธีดูแลที่ถูกต้อง

วิธีที่ 4: ให้ผู้ป่วยนอนในห้องที่สะอาดและอากาศถ่ายเท

4.1 ประโยชน์ของห้องที่สะอาดและอากาศถ่ายเท

4.2 แนวทางดูแลสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

วิธีที่ 5: พูดคุย ให้กำลังใจ และสังเกตอารมณ์ความเครียด

5.1 ทำไมการดูแลจิตใจถึงสำคัญ?

5.2 วิธีดูแลด้านจิตใจผู้ป่วยติดเตียง

สรุป

การดูแลผู้ป่วยติดเตียงต้องทำด้วย ความรู้ + ความรัก + ความอดทน ครอบครัวควรมีแนวทางที่ถูกต้องเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีของผู้ป่วย หากครอบครัวรู้สึกว่าไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา สามารถเลือก ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญ เช่น บ้านลลิสาสาขาเชียงใหม่ดูแลผู้สูงอายุ ที่พร้อมมอบการดูแลครบวงจร

อาหารโภชนาการครบถ้วน เพื่อสุขภาพที่ดีของคนที่คุณรัก

ในกระบวนการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้น อาหาร คือหัวใจสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ฟื้นฟูร่างกาย และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยเฉพาะในการดูแลผู้สูงอายุ ที่บ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการมุ่งเน้นการดูแลแบบองค์รวมและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งด้านสุขภาพกาย ใจ และโภชนาการที่ครบถ้วน เราจะพาคุณไปรู้จักแนวทางการจัดอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุอย่างละเอียด พร้อมเหตุผลว่าทำไมการใส่ใจในอาหารเพราะเป็นสิ่งที่ดีและควรทำจึงสำคัญมาก

  • เมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญจะทำงานช้าลง ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง จำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีสารอาหารแน่นแต่ไม่หนัก
  • อาหารที่ดีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และชะลอโรคเรื้อรัง

1.3 การป้องกันภาวะขาดสารอาหาร

  • ผู้สูงอายุมักเบื่ออาหาร ทำให้เสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินจำเป็น

2.1 การเลือกวัตถุดิบสดใหม่

  • บ้านลลิสาเลือกใช้วัตถุดิบที่สด ใหม่ และสะอาด จากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • คัดสรรผักปลอดสารพิษ และเนื้อสัตว์คุณภาพดีทุกวัน

2.2 ปรุงอาหารตามหลักโภชนาการ

  • ทุกเมนูปรุงโดยเชฟที่ผ่านการอบรมด้านอาหารผู้สูงอายุ
  • ควบคุมปริมาณโซเดียม น้ำตาล และไขมันให้อยู่ในระดับเหมาะสม

2.3 เน้นคุณค่าทางอาหารในทุกมื้อ

  • มีสัดส่วนครบถ้วนของหมู่สารอาหารทั้ง 5 หมู่
  • ใช้เทคนิคการทำอาหารที่คงคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ต้ม นึ่ง อบ

2.4 ความใส่ใจในกระบวนการเตรียมอาหาร

  • ห้องครัวได้รับมาตรฐานความสะอาด
  • พนักงานครัวผ่านการอบรมเรื่องความปลอดภัยอาหาร

3.1 เมนูอาหารเช้า

  • ข้าวต้มปลากะพง + ไข่ตุ๋น + นมถั่วเหลืองร้อน
  • ข้าวกล้องผัดฟักทอง + ผลไม้สด

3.2 เมนูอาหารกลางวัน

  • แกงเลียงกุ้งสด + ไข่เจียวดอกไม้ + ข้าวกล้อง
  • ปลาทอดสมุนไพร + ซุปผักโขม + ข้าวไรซ์เบอร์รี่

3.3 เมนูอาหารเย็น

  • โจ๊กไก่ใส่ฟักทอง + ต้มจับฉ่าย
  • เต้าหู้ทรงเครื่อง + น้ำผลไม้คั้นสด (ไม่เติมน้ำตาล)

3.4 เมนูของว่างบำรุงสุขภาพ

  • กล้วยน้ำว้าหอม + น้ำขิงอุ่น
  • ขนมปังโฮลวีททาอะโวคาโด + ชาเขียวร้อน

4.1 นักโภชนาการประจำศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเชียงใหม่

  • ออกแบบเมนูเฉพาะบุคคลตามโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือภาวะไตเสื่อม
  • ปรับเมนูให้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการเคี้ยวหรือกลืน

4.2 ความร่วมมือของทีมพยาบาลและครัว

  • ตรวจสอบการตอบสนองของร่างกายผู้สูงอายุหลังมื้ออาหาร
  • ประเมินสุขภาพช่องปากและพฤติกรรมการกินเพื่อปรับแผนโภชนาการ

4.3 การติดตามและประเมินผล

  • น้ำหนักและระดับสารอาหารในร่างกายถูกติดตามทุกเดือน
  • ปรับเมนูให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพผู้สูงอายุ

5.1 บริการดูแลโภชนาการเฉพาะบุคคล

  • ทุกคนได้รับแผนอาหารที่ปรับเฉพาะตามอายุ โรค และพฤติกรรม

5.2 สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

  • ห้องรับประทานอาหารสะอาด ปลอดโปร่ง
  • บริการเสิร์ฟถึงห้องพักในกรณีจำเป็น

5.3 บริการเสริมเพื่อสุขภาพ

  • การให้คำปรึกษาเรื่องอาหารกับครอบครัวผู้ดูแล
  • การจัดอบรมเมนูง่าย ๆ ให้ญาตินำไปดูแลต่อที่บ้าน

อาหารคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและใจให้กับผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน ที่บ้านลลิสา สาขาเมืองเชียงใหม่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุง การเสิร์ฟ ไปจนถึงการประเมินผลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกมื้ออาหาร คือพลังแห่งการฟื้นฟูที่มีความแข็งแรงในทุก ๆ วัน

6 โรคหน้าฝน ที่ผู้สูงอายุ ต้องระวังเป็นพิเศษ

ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่มีความชื้นสูง อากาศเย็น และมีโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้ผู้สูงอายุซึ่งมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยมากกว่าคนทั่วไป ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเฝ้าระวังโรคที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 6 โรคที่ผู้สูงอายุต้องระวังเป็นพิเศษ พร้อมแนวทางการป้องกันเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในทุกวันของฤดูฝน

1. โรคจากไวรัส – ภัยเงียบในฤดูฝน

1.1 สาเหตุและการติดต่อ

ไวรัสที่พบบ่อยในฤดูฝน เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไวรัส RSV สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม รวมถึงการสัมผัสวัตถุปนเปื้อน

1.2 อาการที่ควรสังเกต

  • ไข้สูง หนาวสั่น
  • ไอ จาม น้ำมูกไหล
  • เหนื่อยง่าย หายใจหอบ (โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว)

1.3 วิธีป้องกัน

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
  • หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และสวมหน้ากากอนามัย
  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์

2. โรคคอติดเชื้อ – อาการที่ดูเหมือนไข้ธรรมดาแต่รุนแรง
2.1 ทำไมผู้สูงอายุต้องระวัง?

โรคคอติดเชื้อหรือคออักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส มักเกิดในช่วงที่อากาศชื้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานลดลง

2.2 อาการหลัก

  • เจ็บคอ กลืนลำบาก
  • ไข้ ปวดเมื่อย
  • ต่อมน้ำเหลืองบวมใต้คาง

2.3 แนวทางป้องกัน

  • หมั่นดื่มน้ำอุ่น และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเย็นจัด
  • รักษาความสะอาดของช่องปาก

3. โรคท้องเสีย – จากอาหารปนเปื้อนน้ำฝน

3.1 ต้นเหตุที่พบได้ในหน้าฝน

ในช่วงฝนตกบ่อย มักเกิดน้ำขัง ทำให้อาหารหรือแหล่งน้ำปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น เชื้ออีโคไล หรือซาลโมเนลลา

3.2 อาการทั่วไป

  • ปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน
  • อ่อนเพลีย และเสี่ยงภาวะขาดน้ำ

3.3 วิธีดูแลและป้องกัน

  • รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ และหลีกเลี่ยงอาหารแช่เย็นนานเกินไป
  • ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุก
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน

4. โรคผิวหนังอักเสบ – เพราะความอับชื้น

4.1 ความชื้นทำให้ผิวติดเชื้อ

ฤดูฝนทำให้ผิวหนังของผู้สูงอายุเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะบริเวณข้อพับ หรือจุดสัมผัสที่มีเหงื่อออกบ่อย

4.2 อาการที่พบได้บ่อย

  • คัน ผื่นแดง บวม หรือมีตุ่มน้ำใส
  • ผิวหนังเปื่อยหรือแตกเป็นแผล

4.3 การดูแลผิวให้ปลอดภัย

  • เช็ดตัวให้แห้งทันทีหลังเปียกฝน
  • สวมเสื้อผ้าที่โปร่ง ระบายอากาศดี
  • ใช้ครีมบำรุงหรือยาทาภายใต้คำแนะนำของแพทย์

5. โรคฉี่หนู – อันตรายจากแหล่งน้ำสกปรก

5.1 สาเหตุจากน้ำขังและสัตว์พาหะ

โรคฉี่หนูมาจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ โดยเฉพาะหนู เมื่อสัมผัสแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนก็มีโอกาสติดเชื้อ

5.2 อาการในผู้สูงอายุ

  • ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัว
  • ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
  • ตาแดง หรือมีภาวะไตผิดปกติ

5.3 การป้องกันที่สำคัญ

  • หลีกเลี่ยงการเดินในน้ำขัง
  • สวมรองเท้าบู๊ตเมื่อต้องเดินลุยน้ำ
  • ทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธีหากสัมผัสน้ำสกปรก

6. ไข้เลือดออก – ระวังยุงลายในฤดูฝน

6.1 ศัตรูตัวร้ายของผู้สูงอายุ

ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก ซึ่งมักวางไข่ในน้ำขังที่พบได้ทั่วไปในหน้าฝน

6.2 สัญญาณเตือน

  • ไข้สูงลอยไม่ลด ปวดหัวมาก
  • ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ
  • มีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง

6.3 ป้องกันยุงลายอย่างไร?

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น จานรองกระถาง ตุ่มน้ำ
  • ทายากันยุง หรือติดมุ้งลวด
  • หากพบอาการผิดปกติรีบพบแพทย์ทันที

ฤดูฝนเป็นช่วงที่ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการติดโรคต่าง ๆ มากกว่าปกติ ทั้งจากสภาพอากาศ แหล่งน้ำ และการติดเชื้อในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการดูแลจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและสภาพแวดล้อม ช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกฤดู

การดูแล สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบ้านลลิสา มอบความอุ่นใจในทุกขั้นตอนของการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง พร้อมทีมแพทย์ พยาบาล นักกายภาพ และกิจกรรมบำบัดอย่างครบวงจร

บ้านลลิสา Nursing Home – พื้นที่แห่งความห่วงใยที่คุณวางใจได้

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่คุณวางใจได้ บ้านลลิสา Nursing Home

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ร่างกายและจิตใจต้องการการดูแลอย่างละเอียดและอบอุ่น “บ้านลลิสา Nursing Home” จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นคำตอบสำหรับครอบครัวที่มองหาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และพร้อมดูแลเหมือนคนในครอบครัว


1. ทำไมต้องเลือกบ้านลลิสา Nursing Home?

1.1 ดูแลโดยทีมบุคลากรทางการแพทย์และนักบริบาลมืออาชีพ

เราเข้าใจถึงความต้องการเฉพาะของผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้น บ้านลลิสาจึงจัดให้มีทีมพยาบาล นักกายภาพ และผู้ดูแลที่มีประสบการณ์สูง พร้อมให้บริการอย่างอบอุ่นและปลอดภัย

1.2 ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงอย่างใกล้ชิด

ที่บ้านลลิสา เราเน้นการดูแลรายบุคคล ด้วยการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและตอบสนองต่อความต้องการทันที

1.3 กิจกรรมกายภาพบำบัดส่งเสริมสุขภาพ

ผู้สูงอายุที่เข้าพักจะได้รับกิจกรรมกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยนักกายภาพมืออาชีพ ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย เพิ่มความคล่องตัว ลดอาการเจ็บปวด และป้องกันโรคเรื้อรัง

1.4 โภชนาการครบถ้วน ถูกสุขลักษณะ

อาหารที่บ้านลลิสาเน้นโภชนาการครบ 5 หมู่ ปรุงใหม่ สะอาด พร้อมเมนูเฉพาะผู้ป่วยและผู้สูงอายุโดยนักโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในทุกมื้อ

1.5 ห้องพักมาตรฐาน ปลอดโปร่ง น่าอยู่

ห้องพักที่บ้านลลิสาได้รับการออกแบบให้มีอากาศถ่ายเทดี มีแสงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเงียบสงบ เป็นส่วนตัว พร้อมเตียงพิเศษและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน


2. บริการที่ครบวงจร เหนือความคาดหมาย

2.1 บริการดูแลผู้ป่วยระยะพักฟื้น

หลังการผ่าตัดหรือการรักษาโรครุนแรง ผู้ป่วยต้องการการฟื้นตัวอย่างใกล้ชิด บ้านลลิสาให้บริการดูแลการพักฟื้นอย่างครบวงจร ด้วยแผนการดูแลเฉพาะบุคคล

2.2 ส่งเสริมสุขภาพจิตและกิจกรรมทางสังคม

นอกจากการดูแลร่างกายแล้ว เราให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต กิจกรรมนันทนาการ เช่น ดนตรี ศิลปะ การพูดคุยกลุ่ม สร้างกำลังใจและลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ

2.3 การสื่อสารและอัปเดตข้อมูลกับครอบครัว

เราเชื่อในการเปิดเผยและโปร่งใส ครอบครัวสามารถติดตามอาการและกิจกรรมของผู้สูงอายุได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมรับคำปรึกษาและรายงานสุขภาพประจำสัปดาห์


3. สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและปลอดภัย

3.1 ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด

บ้านลลิสาออกแบบระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ มีระบบป้องกันอุบัติเหตุ กล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่เวรยามตลอด 24 ชม.

3.2 การออกแบบที่เน้นความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ

ทุกพื้นที่ของบ้านลลิสาออกแบบตามหลัก Universal Design เช่น ทางลาด ห้องน้ำกันลื่น ราวจับเดิน ทุกจุดช่วยให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัย


4. เสียงจากครอบครัวและผู้เข้าพักจริง

“คุณแม่ของฉันมีความสุขมากหลังมาอยู่บ้านลลิสา พนักงานใจดีและดูแลเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆ” – คุณศิริพร

“หลังผ่าตัดหัวเข่า ผมเลือกมาพักฟื้นที่นี่ เพราะมีนักกายภาพมืออาชีพ ฟื้นตัวเร็วเกินคาด” – คุณสมชาย


สรุป: บ้านลลิสา Nursing Home คือคำตอบของการดูแลผู้สูงอายุอย่างแท้จริง

บ้านลลิสาคือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะพักฟื้นที่พร้อมให้บริการอย่างครบถ้วนโดยทีมแพทย์ พยาบาล และผู้ดูแลมืออาชีพในบรรยากาศอบอุ่น ปลอดภัย และใส่ใจทุกความต้องการของผู้สูงอายุ เพื่อให้ทุกวันของท่านเต็มไปด้วยรอยยิ้มและคุณภาพชีวิตที่ดี

ดูแลฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ด้วยกายภาพบำบัด

การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ต้องการความเข้าใจ และการดูแลแบบองค์รวม การทำกายภาพบำบัดอย่างถูกวิธีและต่อเนื่องเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น “บ้านลลิสา” พร้อมดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยอย่างมืออาชีพ เพื่อเป้าหมายในการฟื้นคืนศักยภาพการดำเนินชีวิตอย่างมั่นคง และปลอดภัย

ความสำคัญของการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke

ผู้ป่วย Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลฟื้นฟูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากภายหลังการเกิดโรค ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักประสบภาวะอ่อนแรงของร่างกายครึ่งซีก สูญเสียการควบคุมแขนขา ซึ่งส่งผลให้การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การลุกนั่ง หรือการหยิบจับสิ่งของ กลายเป็นเรื่องยากลำบาก อีกทั้งยังอาจมีภาวะทางอารมณ์แปรปรวนร่วมด้วย เช่น ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล

กายภาพบำบัด…ทางเลือกที่สำคัญในการฟื้นฟู

การทำกายภาพบำบัดจึงเป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูการทำงานของร่างกายให้กลับมาใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ข้อติด กล้ามเนื้อฝ่อลีบ หรือแผลกดทับ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและเป็นอิสระมากขึ้น

บริการดูแลฟื้นฟูที่ “บ้านลลิสา”

ที่ “บ้านลลิสา” เราให้บริการดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke อย่างครบวงจร ด้วยทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการกายภาพบำบัดโดยตรง ดูแลด้วยความใส่ใจ ใกล้ชิด และถูกต้องตามหลักวิชาการ

จุดเด่นของการฟื้นฟูที่บ้านลลิสา

  • ✨ การดูแลแบบเฉพาะบุคคล: ออกแบบโปรแกรมกายภาพบำบัดที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ✨ ทีมงานมืออาชีพ: นักกายภาพบำบัดที่มีใบประกอบวิชาชีพและประสบการณ์สูง พร้อมพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
  • ✨ สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการฟื้นฟู: บ้านพักสะอาด ปลอดภัย อุปกรณ์ครบครัน รองรับผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
  • ✨ การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง: มีการประเมินและติดตามผลการฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับแผนให้เหมาะสมตามพัฒนาการของผู้ป่วย
  • ✨ การดูแลด้านจิตใจและอารมณ์: มีกิจกรรมเสริมช่วยลดความเครียด และส่งเสริมกำลังใจในการฟื้นฟู
  • ✨ ความพร้อมด้านอาหารและโภชนาการ: บริการอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพ และสอดคล้องกับภาวะของผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อช่วยเสริมสร้างพลังงานในการฟื้นฟูร่างกาย
  • ✨ บริการแบบครบวงจรในที่เดียว: ครอบคลุมทั้งการฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงการดูแลรายวันโดยทีมสหวิชาชีพ เพื่อความสะดวกสบายและมั่นใจของผู้ป่วยและครอบครัว

สิ่งที่จะได้รับจากการฟื้นฟูที่บ้านลลิสา

  • ✅ ฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อและข้อต่อที่อ่อนแรง: ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถขยับร่างกายได้ดีขึ้น ลดอาการเกร็งและข้อติด เพิ่มความคล่องตัวในการทำกิจกรรมต่างๆ
  • ✅ ฟื้นฟูสมดุลของร่างกาย เช่น ฝึกการทรงตัว: ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถยืน เดิน หรือเปลี่ยนอิริยาบถได้อย่างมั่นคง ลดความเสี่ยงในการหกล้ม และเพิ่มความมั่นใจในการเคลื่อนไหว
  • ✅ เพิ่มขีดความสามารถในการเคลื่อนไหว เช่น การลุกนั่ง เดิน: เสริมสร้างความสามารถพื้นฐานในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างเป็นอิสระมากขึ้น และลดการพึ่งพาผู้อื่น
  • ✅ เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ: ลดความเสี่ยงของกล้ามเนื้อฝ่อลีบ เพิ่มความทนทานและคล่องตัวต่อกิจกรรมต่างๆ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • ✅ ฝึกการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ เช่น ไม้เท้า ไม้พยุง ให้ใช้อย่างปลอดภัย: เสริมความมั่นใจและความปลอดภัยในการเคลื่อนไหว ลดอุบัติเหตุจากการใช้ผิดวิธี พร้อมแนะนำวิธีดูแลอุปกรณ์อย่างเหมาะสม
  • ✅ การดูแลอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ: ฟื้นฟูภายใต้การดูแลของทีมผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามผลและปรับแผนอย่างเหมาะสมต่อเนื่อง
  • ✅ บริการดูแลเสริมด้านสุขภาพจิตและอารมณ์: ลดความเครียด เสริมสร้างกำลังใจ เพิ่มแรงจูงใจในการฟื้นฟู
  • ✅ บริการครบจบในที่เดียว: ทั้งการฟื้นฟู การดูแลรายวัน และบริการเสริมอื่นๆ ครบวงจรในสถานที่เดียวกัน สะดวกและปลอดภัย

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด :

• โทร. 053-855008 , 088-2591895

• Line : @baanlalisacm (มี @)

? เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

#ผู้ป่วยติดเตียง#เนิร์สซิ่งโฮมเชียงใหม่#NursingHome#NursingHomeเชียงใหม่#ChiangMaiNursingHome

#ดูเเลผู้ป่วยครบวงจร#บ้านลลิสาจังหวัดเชียงใหม่

#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเเละผู้ป่วยระยะพักฟื้น#ดูแลผู้ป่วยStroke

กิจกรรมสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุ

ความสำคัญของกิจกรรมสร้างความสุขให้ผู้สูงอายุ

1. ทำไมผู้สูงอายุจึงต้องมีกิจกรรมสร้างความสุข

2. ผลกระทบของการขาดกิจกรรมต่อสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ


กิจกรรมสร้างความสุขที่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ

1. การออกกำลังกายเบาๆ

การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและลดความเครียด เช่น:

  • การเดินเล่นในสวนสาธารณะ
  • การทำโยคะสำหรับผู้สูงอายุ
  • การบริหารร่างกายด้วยดนตรี

2. กิจกรรมกายภาพบำบัด

เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว โดยเน้นการฝึกฟื้นฟูร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรง

กิจกรรมเชิงสังคมเพื่อความสัมพันธ์ที่ดี

1. การทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว

การมีกิจกรรมร่วมกับลูกหลาน เช่น ทำอาหาร เล่นเกม หรือพูดคุย จะช่วยเสริมสร้างสายใยความสัมพันธ์และลดความรู้สึกโดดเดี่ยว

2. การเข้าร่วมชมรมหรือกลุ่มกิจกรรม

ผู้สูงอายุสามารถเข้าร่วมกลุ่มทำงานฝีมือ ร้องเพลง หรือกิจกรรมทางศาสนา เพื่อพบปะผู้คนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์

กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาทักษะและความเพลิดเพลิน

1. ศิลปะบำบัด

การวาดภาพ งานประดิษฐ์ หรือดนตรีบำบัด ช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียด

2. การอ่านหนังสือและเขียนไดอารี่

ช่วยพัฒนาความจำและส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์


บทบาทของบ้านลลิสา สาขาเชียงใหม่ในการสร้างความสุขให้ผู้สูงอายุ

1. การดูแลแบบองค์รวมที่เน้นสุขภาพและความสุข

บ้านลลิสาสาขาเชียงใหม่มุ่งเน้นการดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

2. กิจกรรมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุ

บ้านลลิสามีกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสุขและสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายกลุ่ม การบำบัดด้วยศิลปะ และกิจกรรมเชิงสันทนาการที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขในทุกๆ วัน

3. ข้อดีของกิจกรรมสร้างความสุข และประโยชน์ที่ได้รับ

การทำกิจกรรมสร้างความสุขไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสนุกสนานในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพกายและใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ต้องการความอบอุ่นและการมีส่วนร่วมในสังคม

? ข้อดีของกิจกรรมสร้างความสุข

ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล – กิจกรรมที่สนุกสนานช่วยกระตุ้นสารแห่งความสุข (Endorphins) ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลายและลดภาวะซึมเศร้าได้
เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม – การทำกิจกรรมร่วมกันช่วยให้ผู้สูงอายุได้พบปะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้อื่น ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว
ส่งเสริมสุขภาพกายและจิตใจ – กิจกรรมบางประเภท เช่น การทำอาหาร วาดภาพ ร้องเพลง หรือออกกำลังกายเบาๆ มีส่วนช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น
กระตุ้นสมองและความจำ – การทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด เช่น เกมฝึกสมอง หรือกิจกรรมศิลปะ ช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อมและกระตุ้นการทำงานของสมอง
เพิ่มคุณค่าทางจิตใจและความภาคภูมิใจในตัวเอง – การทำกิจกรรมที่มีเป้าหมาย เช่น การทำขนมหรือการประดิษฐ์ของใช้ ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองยังสามารถทำสิ่งที่มีประโยชน์ได้

? ประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรมสร้างความสุข

? สุขภาพดีขึ้นทั้งกายและใจ – การทำกิจกรรมเป็นประจำช่วยให้สุขภาพแข็งแรง มีพลังงานมากขึ้น และลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ
? มีพลังบวกและความสุขในชีวิต – ช่วยสร้างมุมมองที่ดีต่อชีวิต ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระฉับกระเฉงมากขึ้น
? ช่วยให้มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น – ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรมสม่ำเสมอมักมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับครอบครัวและเพื่อนรอบตัว
? ลดภาวะซึมเศร้าและความเหงา – การทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวและทำให้มีชีวิตชีวาขึ้น

? เพราะความสุขคือยาวิเศษของชีวิต
การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมที่สร้างความสุขเป็นการช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่สดใสและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ??

เจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุมีบทบาทอะไรบ้าง?

การดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจรต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจในด้านต่างๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุมีบทบาทและหน้าที่หลักดังนี้

1. พยาบาลวิชาชีพ (Registered Nurse – RN)

✅ ดูแลสุขภาพทั่วไปของผู้สูงอายุ เช่น ตรวจวัดสัญญาณชีพ ให้ยา และดูแลบาดแผล
✅ ประเมินสุขภาพและติดตามอาการของผู้สูงอายุ รวมถึงให้คำแนะนำด้านสุขภาพ
✅ ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ และการป้องกันโรคในผู้สูงอายุ

2. ผู้ช่วยพยาบาล (Nurse Assistant)

✅ ช่วยเหลือพยาบาลในการดูแลสุขภาพพื้นฐาน เช่น เปลี่ยนผ้าอ้อม เช็ดตัว และช่วยพยุงการเคลื่อนไหว
✅ ดูแลเรื่องโภชนาการ เช่น ป้อนอาหารและน้ำให้ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย
✅ ช่วยดูแลเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น อาบน้ำ ตัดเล็บ และทำความสะอาดร่างกาย

3. นักกายภาพบำบัด (Physical Therapist – PT)

✅ ออกแบบและดำเนินการทำกายภาพบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
✅ ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรง
✅ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น ไม้เท้า หรือรถเข็น

4. นักกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapist – OT)

✅ ออกแบบกิจกรรมเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
✅ ช่วยฝึกทักษะด้านร่างกาย สมอง และอารมณ์ เช่น การออกกำลังกายเบาๆ ศิลปะบำบัด หรือดนตรีบำบัด
✅ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น

5. นักโภชนาการ (Dietitian/Nutritionist)

✅ ออกแบบเมนูอาหารให้เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุ
✅ ควบคุมปริมาณสารอาหารที่จำเป็น และช่วยปรับอาหารให้เหมาะสมกับโรคประจำตัว
✅ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการสำหรับครอบครัวและผู้ดูแล

6. นักจิตวิทยาหรือที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิต (Psychologist/Counselor)

✅ ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและอารมณ์แก่ผู้สูงอายุเพื่อลดภาวะซึมเศร้าและความเครียด
✅ ส่งเสริมกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าและมีความสุข
✅ ช่วยดูแลด้านอารมณ์ของผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมหรือภาวะซึมเศร้า

7. ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver/Personal Care Assistant)

✅ ดูแลผู้สูงอายุแบบใกล้ชิด ทั้งการช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน เช่น การอาบน้ำ แต่งตัว และรับประทานอาหาร
✅ ดูแลความเป็นอยู่ทั่วไป เช่น จัดห้องพักให้สะอาด สบาย และปลอดภัย
✅ พาผู้สูงอายุทำกิจกรรม เช่น ออกกำลังกาย พูดคุย หรือพาออกไปเดินเล่น


การดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุแต่ละประเภทมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต และการใช้ชีวิตประจำวัน

? “เพราะการดูแลที่ดี คือกุญแจสู่ความสุขของผู้สูงอายุ”
หากกำลังมองหาสถานที่ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร บ้านลลิสาสาขาเชียงใหม่ พร้อมให้การดูแลอย่างใส่ใจและอบอุ่น ?????‍?


สรุปและข้อแนะนำสำหรับครอบครัว

กิจกรรมสร้างความสุขสำหรับผู้สูงอายุมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพกายและจิตใจ การเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่าและมีความสุขมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาสถานที่ดูแลผู้สูงอายุที่ให้บริการแบบครบวงจร บ้านลลิสาสาขาเชียงใหม่ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ที่นี่ให้การดูแลผู้สูงอายุอย่างใส่ใจ พร้อมกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ข้อแนะนำ:

  • สนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมที่เหมาะสมกับสุขภาพและความสนใจ
  • เลือกสถานที่ที่มีบริการดูแลอย่างมืออาชีพและมีกิจกรรมที่หลากหลาย
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการดูแลที่เหมาะสม

? เพราะความสุขของผู้สูงอายุ คือความสุขของทุกคนในครอบครัว ?

#บ้านลลิสา เราพร้อมมอบความมั่นใจในการบริการ

ดูแลด้วยความอบอุ่น ด้วยมาตรฐานระดับสูง

และบุคคลากรที่เป็นมืออาชีพ ?‍⚕️?

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895

• Line : https://lin.ee/cJwaF2g

หรือ @baanlalisacm (มี @)

? เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

5ข้อที่ต้องรู้ก่อนเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ

วัยสูงอายุถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของชีวิตที่หลายคนอาจมองว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนจากการทำงานหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว วัยสูงอายุยังคงสามารถมีคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีได้ หากมีการเตรียมตัวที่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงแค่การดูแลสุขภาพร่างกาย แต่ยังเกี่ยวข้องกับจิตใจ การเงิน ความสัมพันธ์ในครอบครัว และการมีส่วนร่วมในสังคม

1. การดูแลสุขภาพร่างกาย

การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยสูงอายุ

1.1 การรับประทานอาหารที่เหมาะสม

            • ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่

            • ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และเกลือสูง

            • เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชในมื้ออาหาร

1.2 การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

            •  เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย เช่น โยคะ เดินเร็ว หรือว่ายน้ำ

•  ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3-5 วันต่อสัปดาห์

1.3 การตรวจสุขภาพประจำปี

• การตรวจสุขภาพช่วยตรวจหาโรคในระยะแรกเริ่ม

• ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

2. การดูแลสุขภาพจิตใจ

สุขภาพจิตที่ดีช่วยให้วัยสูงอายุมีความสุขและพึงพอใจในชีวิต

2.1 การจัดการความเครียด

• ใช้เทคนิคการหายใจลึกๆ หรือการทำสมาธิ

  • หลีกเลี่ยงความคิดเชิงลบ และฝึกมองโลกในแง่ดี

2.2 การสร้างเป้าหมายในชีวิต

• ตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

            • การมีเป้าหมายทำให้ชีวิตมีความหมายและท้าทาย

2.3 การสร้างเครือข่ายสังคม

            •  เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนหรือกลุ่มสังคมที่มีความสนใจร่วมกัน

            • การมีเพื่อนช่วยลดความเหงา

3. การบริหารจัดการด้านการเงิน

การวางแผนการเงินที่ดีช่วยลดความกังวลในวัยสูงอายุ

3.1 การออมเงินเพื่อวัยเกษียณ

•  เริ่มออมเงินตั้งแต่เนิ่นๆ และลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสม

            •  คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น ค่ารักษาพยาบาล

3.2 การจัดทำงบประมาณ

•  บริหารค่าใช้จ่ายประจำวันให้เหมาะสม

            •  หลีกเลี่ยงการก่อหนี้หรือใช้จ่ายเกินตัว

3.3 การประกันชีวิตและสุขภาพ

            •  การมีประกันช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน

4. การเตรียมความพร้อมด้านสังคมและครอบครัว

การมีความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและสังคมช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต

4.1 การสื่อสารกับครอบครัว

            •  การเปิดใจพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวช่วยเสริมสร้างความเข้าใจ

            •  วางแผนอนาคตร่วมกัน เช่น การดูแลสุขภาพหรือการแบ่งมรดก

4.2 การมีส่วนร่วมในชุมชน

            •  การช่วยเหลือสังคม เช่น การเป็นอาสาสมัคร

4.3 การสร้างมิตรภาพใหม่

•  เปิดใจเรียนรู้และพบปะผู้คนใหม่ๆ

5. การพัฒนาตนเองและการเรียนรู้

การเรียนรู้สิ่งใหม่ช่วยกระตุ้นสมองและเสริมสร้างความสุข

5.1 การเรียนรู้ทักษะใหม่

            •  เรียนรู้ภาษาใหม่ การทำอาหาร หรือการใช้เทคโนโลยี

            •  การเรียนรู้ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อม

5.2 การอ่านหนังสือและการฝึกสมอง

•  อ่านหนังสือ ฝึกทำแบบฝึกหัด หรือเล่นเกมลับสมอง

การเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะวัยสูงอายุที่มีคุณภาพเกิดจากการวางแผนและการดำเนินชีวิตที่รอบคอบในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ การเงิน ความสัมพันธ์ และการพัฒนาตนเอง หากเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ศูนย์ลลิสา เชียงใหม่ดูแลสูงอายุจะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง

ღ หมดห่วง ไร้กังวล เรื่องการดูแลผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุ

เราพร้อมมอบความมั่นใจในการบริการ การดูแล

ด้วยมาตรฐานระดับสูง และบุคคลากรที่เป็นมืออาชีพ

===== ===== ===== ===== =====

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895

• Line : https://lin.ee/cJwaF2g

หรือ @baanlalisacm (มี @)

? เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7

การนอนหลับที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ

ปัจจัยที่ส่งผลและวิธีการปรับปรุงคุณภาพการนอน

การนอนหลับเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการนอนหลับที่มีคุณภาพเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ หากคุณหรือคนในครอบครัวมีผู้สูงวัยที่มีปัญหาการนอนหลับ และจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนหลับของผู้สูงอายุ พร้อมวิธีการปรับปรุงการนอนให้ดีขึ้น

1. ความสำคัญของการนอนหลับสำหรับผู้สูงอายุ

การนอนหลับมีความสำคัญต่อทุกวัย แต่สำหรับผู้สูงอายุ การนอนหลับมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลร่างกายและป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และภาวะซึมเศร้า

1.1 การนอนหลับและการฟื้นฟูร่างกาย

ในช่วงการนอน ร่างกายจะมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อต่าง ๆ ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างและเก็บข้อมูลในสมอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพผู้สูงวัย

1.2 ปัญหาการนอนหลับที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุมักประสบปัญหาการนอนหลับหลายรูปแบบ เช่น การนอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อยกลางดึก หรือรู้สึกอ่อนเพลียเมื่อตื่นขึ้นมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ


2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนหลับของผู้สูงอายุ

หลายปัจจัยสามารถส่งผลต่อการนอนหลับของผู้สูงอายุ ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงสิ่งแวดล้อมและการใช้ยาบางชนิด

2.1 การเปลี่ยนแปลงของวงจรการนอนหลับ

เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มขึ้น วงจรการนอนหลับมักจะเปลี่ยนแปลงไป ผู้สูงอายุอาจมีแนวโน้มที่จะนอนหลับเร็วขึ้นและตื่นเช้ามากขึ้น นอกจากนี้ การนอนหลับลึกจะลดลง ทำให้เกิดการตื่นบ่อยกลางดึก

2.2 การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน

ฮอร์โมนเช่น เมลาโทนิน (melatonin) ซึ่งควบคุมวงจรการนอนหลับ จะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การนอนหลับไม่สนิทและหลับได้ยากขึ้น

2.3 ปัญหาสุขภาพและการใช้ยา

ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับหัวใจ มักจะมีปัญหาการนอนหลับเนื่องจากอาการป่วยที่เกิดขึ้น รวมถึงยาที่ใช้รักษาโรคเหล่านี้ก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้การนอนหลับไม่สม่ำเสมอ

2.4 ความเครียดและสภาพจิตใจ

ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการนอนหลับของผู้สูงอายุ หลายครั้งความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือความวิตกเกี่ยวกับสุขภาพทำให้ผู้สูงวัยหลับได้ยากขึ้น


3. วิธีการปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับของผู้สูงอายุ

การปรับปรุงการนอนหลับสำหรับผู้สูงอายุสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนและสภาพแวดล้อม เพื่อช่วยให้พวกเขานอนหลับได้อย่างมีคุณภาพและตื่นมาพร้อมความสดชื่น

3.1 สร้างตารางการนอนที่สม่ำเสมอ

การเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวันเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับวงจรการนอนที่เป็นระเบียบ ซึ่งส่งผลให้ผู้สูงวัยนอนหลับได้ง่ายขึ้น

3.2 สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

สภาพแวดล้อมในห้องนอนควรมีอุณหภูมิที่เหมาะสม เงียบสงบ และไม่มีแสงรบกวน สามารถใช้ม่านกันแสง หรือใช้เสียงเบา ๆ เช่น เสียงน้ำไหลเพื่อช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น

3.3 การหลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงกลางวัน

การงีบหลับระหว่างวันอาจส่งผลให้การนอนหลับตอนกลางคืนยากขึ้น การลดเวลางีบหลับจะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกง่วงในตอนกลางคืนและนอนหลับได้ดีขึ้น

3.4 การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดินเล่น หรือโยคะสำหรับผู้สูงอายุ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและปรับปรุงการนอนหลับให้ดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วงก่อนนอนเพราะอาจกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวมากเกินไป

3.4 การปรับเปลี่ยนอาหาร

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการนอน เช่น นมอุ่นๆ ก่อนนอน ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และอาหารหนักก่อนนอน เพราะอาจรบกวนการนอน


4. บทบาทของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในการดูแลการนอนหลับ

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้สูงวัยมีการนอนหลับที่ดี โดยการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และจัดการดูแลด้านสุขภาพจิตและร่างกาย การมีผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุและผู้ที่สามารถช่วยเหลือได้ในเวลาที่จำเป็นจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกปลอดภัย และนอนหลับได้อย่างสบายใจ


การนอนหลับที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน การดูแลสุขภาพร่างกาย และการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้อย่างมาก หากผู้สูงอายุยังคงประสบปัญหาการนอนหลับ ควรพิจารณาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้

ღ หมดห่วง ไร้กังวล เรื่องการดูแลผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุ

เราพร้อมมอบความมั่นใจในการบริการ การดูแล

ด้วยมาตรฐานระดับสูง และบุคคลากรที่เป็นมืออาชีพ

===== ===== ===== ===== =====

สนใจติดต่อ/สอบถามรายละเอียด

• โทร. 053-855008 , 088-2591895

• Line : https://lin.ee/cJwaF2g

หรือ @baanlalisacm (มี @)

? เเผนที่ : https://goo.gl/maps/6GXQPqhvgZ1aMWLS7